พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีพระปรีชาสามารถในหลายด้าน หนึ่งด้านที่เป็นที่ประจักษ์มานานหลายปีก็คือด้านการออกแบบ กับผลงานการออกแบบที่ทรงเผยแพร่ออกมาให้ได้เห็นผ่านแบรนด์ SIRIVANNAVARI ของพระองค์เอง
ในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับครั้งที่ 60 (60th Bangkok Gems and Jewelry Fair) ที่จะจัดระหว่างวันที่ 6-10 กันยายนนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จะเสด็จเป็นประธานทรงเปิดงาน อีกทั้งทรงประทานชิ้นงานการออกแบบของพระองค์ให้คณะผู้จัดงานได้นำมาจัดแสดง เผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านการออกแบบเครื่องประดับ เป็นไฮไลต์พิเศษของงาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักออกแบบไทยรุ่นใหม่ในการพัฒนาฝีมือการออกแบบ และพัฒนาแบรนด์สู่ตลาดสากล
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
การจัดแสดงผลงานของพระองค์หญิงที่กำลังจะ จัดแสดงนี้มุ่งเน้นเจาะลึกเรื่องการดีไซน์เครื่องประดับของแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยรวบรวมผลงานตั้งแต่คอลเล็กชั่นปี 2004 ถึงปัจจุบันรวมกว่า 70 ชิ้น พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลพระทัยในการสร้างสรรค์ของพระองค์หญิง
2004 Red Hobby
คอลเล็กชั่นปี 2004 สร้างขึ้นจากความชื่นชอบในศิลปะ Pop Art บวกกับสิ่งที่ชื่นชอบรอบ ๆ ตัวในตอนนั้น สไตล์พังก์และร็อกในทศวรรษ 1990 ก็มีปรากฏในคอลเล็กชั่นนี้ด้วย
ในส่วนการออกแบบเครื่องประดับ ทรงเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นลูกปัดหิน และวัตถุดิบแปลกใหม่อื่น ๆที่ น่าสนใจ โดยเน้นที่สีสันสดใสและหลากหลาย ส่วนเครื่องประดับสำหรับผู้ชายเลือกใช้เครื่องเงิน ด้วยองค์ประกอบที่น่าสนใจเหล่านี้ทั้งหมดรวมกันสร้างคอลเล็กชั่นที่สวยงามนี้ในที่สุด
2005 Viva Victorian
คอลเล็กชั่นปี 2005 สร้างขึ้นภายใต้แนวพระดำริ “Viva Victorian” ถ่ายทอดผ่านการรวมกันของเรื่องราวในยุคสมัยวิกตอเรียน เข้ากับวัฒนธรรมพังก์สมัยใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลพระทัยจากหนังเรื่อง “Gangs of New York” ที่ฉายในช่วงปลายทศวรรษ 1980 อีกทั้งยังมีแรงบันดาลพระทัยจากภาพวาดและผลงานศิลปะในอดีต เช่น ผลงานของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
2006 Fly to Nouveau
คอลเล็กชั่นปี 2006 ถ่ายทอดผ่านแนวพระดำริ “Fly to Nouveau” คอลเล็กชั่นนี้พระองค์หญิงทรงสนพระทัยเรื่องราวความกล้าหาญของทหารและด้าน อุตสาหกรรมในทศวรรษ 1920 รวมถึงงานศิลปะ Art Nouveau ของศิลปินชื่อ Alphonse Mucha เป็นคอลเล็กชั่นที่รวมความแข็งแรงและอ่อนหวานอย่างลงตัว
2007 Harmonious
ในปี 2007 นำเสนอภายใต้แนวพระดำริ “ฮาร์โมเนียส” ที่ผสานความเป็นไทยโบราณเข้ากับแฟชั่นทันสมัย จึงทำให้เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ทรงออกแบบมีรูปลักษณ์ของความเป็นโอ เรียนทอลอาวองต์ การ์ด แบบไทยอย่างชัดเจน ในส่วนเครื่องประดับมีลวดลายไทย ลายประจำยาม หรือลายดุนตามลายสถาปัตยกรรมไทย ทรงนำความวิจิตรบรรจงของการแกะสลักไม้ของไทยเข้ามาผสมผสานกับงานเครื่องเงิน
Spring/Summer 2015
คอลเล็กชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2015 ทรงได้แรงบันดาลพระทัยจากสุนทรียะจากยุคนีโอคลาสสิก ยุคจักรวรรดิโรมัน และเสน่ห์ของเครื่องแบบทหารนโปเลียน
ส่วนคอลเล็กชั่นเครื่องประดับ โดดเด่นด้วยตัวเรือนทองที่แสดงถึงสัญลักษณ์และลวดลายต่าง ๆที่สื่อถึงความหมายอันดีงามตามความเชื่อในสมัยนีโอคลาสสิก เครื่องประดับทุกชิ้นผลิตจากทองเหลืองเคลือบด้วยสีทองขาวและสีทองแฮมิลตัน ประดับด้วยอัญมณีเพิ่มความโก้หรู เช่น อะเมทิสต์ โรสควอตซ์มุกน้ำจืด นอกจากนี้ยังมีพลอยสังเคราะห์ ทั้งสีเขียวมรกต สีเหลืองอำพัน สีเขียวมะกอก และสีชมพูแซปไฟร์
Spring/Summer 2016
คอลเล็กชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2016 ทรงมีแรงบันดาลพระทัยมาจากศิลปะจากยุคโรแมนติกซิซึ่ม(Romanticism) ไปจนถึงยุคอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม (Impressionism) ผสมผสานกับบรรยากาศชานเมืองบริเวณพระราชวังแวร์ซายส์ ออกมาเป็นคอลเล็กชั่นโก้หรูแนวโมเดิร์น
สำหรับคอลเล็กชั่นเครื่องประดับที่วิจิตรตระการตาถูกสร้างสรรค์ภายใต้ธีมของคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน
เห็นได้จากสร้อยโชกเกอร์โลหะทองประดับด้วยไข่มุกที่นำมาร้อยเป็นผลกูสเบอรี่ สนับมือและแหวนรูปนกฮัมมิ่งเบิร์ด ไปจนถึงต่างหูทองประดับหินพิมพ์ กราฟิกลายนกฮัมมิ่งเบิร์ด
2017 Serenity
แรงบันดาลพระทัยหลักของคอลเล็กชั่นทรงออกแบบสปริง/ซัมเมอร์ 2017 คือเรื่องราวความรักของชายหญิงคู่หนึ่งจากการเดินทางในท้องทะเลอันไกลโพ้น ราวเทพนิยาย ที่เปี่ยมด้วยความทรงจำ ความโรแมนติก และความโศกเศร้าภายใต้ท้องนภาอันกว้างใหญ่ โอบล้อมด้วยประกายแห่งแสงจันทร์ ดวงดาวที่พร่างพราย และเส้นขอบฟ้าที่ไม่รู้จบ อันเป็นบทพระนิพนธ์ของพระองค์หญิงเอง
พระองค์หญิงทรงนำเรื่องราวดังกล่าวมาตีความออกมาเป็นโครงสร้างเสื้อที่มีความพลิ้วไหวและอ่อนหวาน
มีเทคนิคการตัดเย็บที่ทำให้เสื้อมีความเป็นเฟมินีนมากขึ้น พร้อมด้วยงานปักที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
ส่วนเครื่องประดับสร้างสรรค์ออกมาวิจิตรตระการตาภายใต้ธีมของคอลเล็กชั่น เสื้อผ้าด้วยเช่นกัน เห็นได้จากสร้อยประดับอัญมณีรูปดาว พระจันทร์ ม้าน้ำ แหวนลงยาสัญลักษณ์ตัว S ประดับมุกและลาปิส (Lapis) ต่างหูรูปพระจันทร์เสี้ยว ต่างหูเปลือกมุก ฯลฯ
ผลงานการออกแบบเครื่องประดับของพระองค์หญิงชิ้นสำคัญที่กล่าวถึงจะจัดแสดงให้ได้ชมในงาน บางกอก เจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ระหว่างวันที่ 6-10 กันยายนนี้ ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
