ฟุตบอลโลก 2022 อังกฤษ-ฝรั่งเศส ทะลุเข้ารอบ ดวลกัน 8 ทีมสุดท้าย

อังกฤษ - ฝรั่งเศส
(AP Photo)

ตามคาดอีก 2 คู่ ทีมใหญ่เอาชนะทีมรองได้สบาย อังกฤษ ชิล ๆ บด เซเนกัล ทะลุเข้า 8 ทีมสุดท้ายชน ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่อัด โปแลนด์ร่วง 

วันที่ 4 ธันวาคม 2565 ศึกฟุตบอลโลก 2022 ในรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย กองเชียร์อังกฤษฮึกเหิมร้องเพลง it’s coming home กันอีกแล้ว เมื่อแชมป์โลกหนึ่งสมัย เมื่อปี 1966 โชว์ฟอร์มเหนือ เซเนกัล อันดับ 18 ของโลก ที่ไม่มีศูนย์หน้าตัวสำคัญ ซาดิโน มาเน มาด้วย

สิงโตคำรามเอาชนะเซเนกัลสบาย ๆ 3-0 ประตู จาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นาที 38, แฮร์รี เคน นาที 45+3 และบูคาโย ซากา นาที 57

England’s players celebrate (AP Photo/Petr David Josek)

ช่วงเริ่มเกม 30 นาทีแรก เซเนกัลเปิดเกมรุกได้วูบวาบมากกว่า แต่ไม่เฉียบขาดพอ จึงถูกอังกฤษขึ้นนำก่อน นาที 38 แฮร์รี เคน จ่ายทะลุให้ จูด เบลลิงแฮม แล้วปาดมาหน้าประตูให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ไม่มีตัวประกบ ยิงเข้าไปอย่างสวยงาม

England’s Jordan Henderson scores the opening goal. (AP Photo/Frank Augstein)
England’s Jordan Henderson, left, celebrates with his teammate Jude Bellingham. (AP Photo/Hassan Ammar)

จากนั้นอังกฤษฮึกเหิมบุกน่ากลัวหลายครั้ง จนนาที 45+3 ฟิล โฟเดน ส่งบอลให้ แฮร์รี เคน หลุดเข้าไปยิงเน้น ๆ ให้อังกฤษ หนีห่างเป็น 2-0 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เซเนกัล แก้เกมเปลี่ยนทีเดียว 3 คน แต่อังกฤษอาศัยจังหวะสวนกลับหลายครั้ง จนนาที 57 โฟเดน จ่ายให้ บูกาโย ซากา ซัดให้อังกฤษ นำห่าง 3-0 และจบด้วยสกอร์นี้

England’s Harry Kane, left, scores his side’s 2nd goal. (AP Photo/Ariel Schalit)
England’s Bukayo Saka scores his side’s third goal. (AP Photo/Hassan Ammar)

หลังเกม แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีม กล่าวชมฟอร์มการเล่นแนวรุกยอดเยี่ยมมาก และการจบสกอร์ได้เด็ดขาด ส่วนการไปเจอ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า เซาธ์เกตกล่าวชมคู่แข่งว่า เล่นโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์อย่างน่าทึ่ง และนักเตะก็สร้างผลงานประทับใจ อังกฤษจึงต้องงัดฟอร์มสูงสุดออกมาให้ได้

England’s Bukayo Saka, right, celebrates with England’s Phil Foden, left, and England’s Harry Kane . (AP Photo/Ariel Schalit)

ฝรั่งเศสเด็ดขาดกว่าโปแลนด์

สำหรับเกมที่ ฝรั่งเศส อัด โปแลนด์ นำโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูในรายการนี้ ต้องมาดวลกับ ทีมชาติโปแลนด์ ที่นำทัพ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอก สโมสรบาร์เซโลนา

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม 

ฝรั่งเศส

อูโก้ ยอริส, ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กนองเดซ, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์, อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

France’s Kylian Mbappe in action REUTERS/Dylan Martinez

โปแลนด์

วอยเซียก เชสนี่, บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, ยาคุบ คิวิออร์, คามิล กลิค, แมตตี้ แคช, เพอร์เซมิสลาฟ ฟรานคอฟสกี้, เซบาสเตียน ซีแมนสกี้, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียก, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, ยาคุบ คามินสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

เปิดฉากครึ่งแรก ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายบุกมากกว่า เพียงแค่ 3 นาที มีลุ้นที่จะได้ประตู เมื่อได้ลูกเตะมุม ราฟาแอล วาราน โขกข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ผ่านไป 20 นาทีแรก ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายที่เข้าทำได้มากกว่า ทว่า ยังไม่ผ่านมือของ วอยเซียก เชสนี่ ผู้รักษาประตูโปแลนด์ ที่โชว์ฟอร์มซุเปอร์เซฟได้หลายลูก จนนาทีที่ 44 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิงให้ฝรั่งเศสขึ้นนำไปก่อน 1-0

ขณะที่โปแลนด์มีลุ้นจากเกมสวนกลับ และใช้ลูกขยันไล่เพรสซิ่งนักเตะฝรั่งเศสเป็นระยะ ใกล้เคียงที่สุดของโปแลนด์คือนาทีที่ 37 โปแลนด์ยิงในกรอบเขตโทษฝรั่งเศสถึง 3 ครั้ง ราฟาเอล วาราน ต้องสกัดจากเส้นประตู

REUTERS/Matthew Childs

จบครึ่งแรกฝรั่งเศส นำโปแลนด์ 1-0 โดยที่ฝรั่งเศส ครองบอล 47% มีโอกาสยิงทั้งหมด 9 ครั้ง ตรงกรอบ 5 ครั้ง ขณะที่โปแลนด์ครองบอล 42% มีโอกาสยิงทั้งหมด 8 ครั้ง ตรงกรอบแค่ครั้งเดียว และการทำประตูของชิรูด์ ยังทำสถิติเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศสเรียบร้อยด้วยจำนวนรวม 52 ประตู

เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที ฝรั่งเศสได้ฟรีคิก ด้านกราบขวา อองตวน กรีซมันน์ ตะบันฟรีคิกแต่ยังไม่ผ่านมือ วอยเซียก เชสนี่ จากนั้น ฝรั่งเศสพับสนามบุกมากกว่า และมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะเอ็มบัปเป้ กับ ชิรูด์ ขณะที่โปแลนด์ มีโอกาสยิงน้อยกว่า และยังไม่ตรงกรอบ

France’s Kylian Mbappe celebrates scoring their third goal with teammates against Poland / REUTERS/Matthew Childs

จนนาทีที่ 74 โปแลนด์เสียบอลในกรอบเขตโทษของฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสได้เปิดเกมสวนกลับ และเป็นเอ็มบัปเป้ จบสกอร์ไม่เหลือ ฝรั่งเศสขึ้นนำโปแลนด์ 2-0

ข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที (91+1) เอ็มบัปเป้ มายิ่งเพิ่มอีก 1 ประตู ทำให้ฝรั่งเศสขึ้นนำไป 3-0 และขึ้นนำเป็นดาวซัลโว 5 ประตู

อย่างไรก็ตาม เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 6 โปแลนด์มาได้จุดโทษเป็นการปลอบใจ เลวานดอฟกี้ ยิงไปแล้ว แต่อูโก ยอริส เซฟได้ ทว่าผู้ตัดสินสั่งให้ยิงใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก ยอริสขยับออกจากเส้นประตูไปก่อน ซึ่งคราวนี้เลวานดอฟกี้ไม่พลาดเป็นครั้งที่ 2 จบเกม ฝรั่งเศส ชนะ โปแลนด์ 3-1

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

จากการแข่งขันสองวัน ได้ทีมผ่านเข้ารอบมาแล้ว 4 ทีม ได้แก่

เนเธอร์แลนด์ พบ อาร์เจนตินา วันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. ตามเวลากาตาร์ หรือตรงกับตีสอง วันที่ 10 ธ.ค. ของไทย ที่สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ถ่ายทอดสดทางช่อง JKN18

อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส วันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค. ตามเวลากาตาร์ หรือตรงกับตีสอง วันที่ 11 ธ.ค. ของไทย ที่สนามอัล บัยต์ สเตเดียม ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐทีวี

…..