แมนฯ ยูฯ เปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล สุดมันส์ 2-2 กินกันไม่ลง แบ่งกันคนละแต้ม

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

ศึกแดงเดือดกินกันไม่ลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 แบ่งกันคนละแต้ม

วันที่ 7 เมษายน 2567 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ศึกแดงเดือด “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

สภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องส่ง วิลลี คัมบวาลา ลงเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหลังคู่กับแฮร์รี แม็กไกวร์ ส่วนลิเวอร์พูลได้ วาตารุ เอ็นโด ลงเป็นตัวจริง

รายชื่อ 11 ตัวจริง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนานา, แอรอน วาน บิสซากา, แฮร์รี แม็กไกวร์, วิลลี คัมบวาลา, ดีโอโก ดาโลต์, คาเซมิโร, ค็อบบี ไมนู, บรูโน แฟร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช, ราสมุส ฮอยลุนด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด

ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์, คอเนอร์ แบรดลีย์, เฟอร์จิล ฟาน ไดก์, จาเรลล์ ควอนซาห์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, วาตารุ เอ็นโด, โดมินิก โซโบสไล, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

ครึ่งเเรกลิเวอร์พูลนำ

เริ่มเกมมาได้ไม่ถึง 2 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ทักทายก่อน อเลฮานโดร การ์นาโช ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้แล้ว แต่เป็นลูกล้ำหน้า

ไม่นานหลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็มีโอกาสขึ้นนำบ้าง โดมินิก โซโบสไล ได้หลุดขึ้นไปยิง แต่อ็องเดร โอนานา ปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มเกมได้ไม่นาน ทั้งคู่มีโอกาสได้เตือนกันฝ่ายละครั้ง โดยที่เกมเดินไปค่อนข้างเร็ว สวนกันถึงปากประตู

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

เกมผ่าน 10 นาที เป็นลิเวอร์พูลที่ได้ครองบอลหาช่องเข้าทำใส่แมนฯ ยูไนเต็ด และทำให้ปีศาจแดงต้องลงไปตั้งโซนรับโดยปริยาย

นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูลมีโอกาสอีกครั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ปาดจากทางซ้ายเข้าไปให้ โดมินิก โซโบสไล ได้ยิงจ่อ ๆ ใกล้จุดโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 23 ลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูจากลูกเตะมุม เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่โหม่งเช็ดไปให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้ฟาดจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป พาหงส์แดงออกนำก่อน 1-0

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

นาทีที่ 26 แมนฯ ยูฯ พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดาย บรูโน แฟร์นานเดส เปิดฟรีคิกและเป็น คาเซมิโร ได้โหม่งชง แต่บอลผ่านหน้าปากประตูไปโดยไม่มีผู้เล่นปีศาจแดงเข้าถึง

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ลิเวอร์พูลน่ากลัวกว่าอย่างชัดเจน ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ราสมุส ฮอยลุนด์ มีโอกาสได้เเตะบอลเพียง 8 ครั้ง และเจ้าตัวยังไม่มีโอกาสได้ทำประตู

นาทีที่ 33 ลิเวอร์พูลได้สวนกลับ หลุยส์ ดิอาซ ไหลบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงด้วยซ้าย แต่โอนาน่ายังพุ่งปัดไว้ได้

ช่วงท้ายครึ่งแรกยังคงเป็นลิเวอร์พูลที่บุกใส่แมนฯ ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่องอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ยังบวกประตูที่ 2 เพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 1-0 โดยที่ปีศาจแดงไม่มีโอกาสยิงประตูแม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่หงส์แดงมีโอกาสยิงไป 14 ครั้ง

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

ครึ่งหลัง

เริ่มต้นครึ่งเวลาหลังมาได้ไม่นาน รูปเกมไม่ต่างจากท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลลงมาโหมบุกใส่แมนฯ ยูไนเต็ด และเจ้าบ้านก็จวนเจียนจะเสียประตูอยู่หลายครั้ง

แต่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 50 จากความผิดพลาดของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ที่จ่ายขวางสนามพลาด และเป็น บรูโน แฟร์นานเดส ที่ฉวยโอกาสยิงไกล ส่งบอลเข้าสนามไป ซึ่งนับเป็นโอกาสแรกของยูไนเต็ดในเกมนี้

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

ลูกยิงของบรูโน แฟร์นานเดส ทำให้โมเมนตัมของเกมกลับมาอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน จนกระทั่งในนาทีที่ 67 ปีศาจแดงก็มาได้ประตูขึ้นนำสุดสวยจาก ค็อบบี ไมนู ที่บรรจงปั่นบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมผ่านมือ เคลเลเฮอร์ เข้าประตูไป

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

หลังจากถูกขึ้นนำ ลิเวอร์พูลก็เริ่มกลับมาเล่นเกมบุกอีกครั้ง ในนาทีที่ 79 หลุยส์ ดิอาซ ได้ยิงหน้าเขตโทษ แต่โอนาน่ายังพุ่งเซฟไว้ได้ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะซ้ำข้ามคานไป

แต่แล้ว วาน บิสซากา ก็มาทำเสียจุดโทษด้วยการทำฟาวล์ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ก่อนจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สังหารเข้าไปในนาทีที่ 84

MAN UTD-LIVERPOOL
AFP

หลังจากลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ โมเมนตัมก็กลับไปอยู่กับหงส์แดงอีกครั้ง บุกใส่ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายเกม โดยเจ้าบ้านก็เจียนอยู่เจียนไปเช่นกัน

จบเกมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ประตู เก็บเพิ่มคนละ 1 แต้ม ลิเวอร์พูลมี 71 คะแนน อยู่รองจ่าฝูง ส่วนยูไนเต็ดมี 49 แต้ม อยู่อันดับ 6