ศึกแดงเดือดกินกันไม่ลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 แบ่งกันคนละแต้ม
วันที่ 7 เมษายน 2567 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ศึกแดงเดือด “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
สภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องส่ง วิลลี คัมบวาลา ลงเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหลังคู่กับแฮร์รี แม็กไกวร์ ส่วนลิเวอร์พูลได้ วาตารุ เอ็นโด ลงเป็นตัวจริง
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนานา, แอรอน วาน บิสซากา, แฮร์รี แม็กไกวร์, วิลลี คัมบวาลา, ดีโอโก ดาโลต์, คาเซมิโร, ค็อบบี ไมนู, บรูโน แฟร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช, ราสมุส ฮอยลุนด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด
ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์, คอเนอร์ แบรดลีย์, เฟอร์จิล ฟาน ไดก์, จาเรลล์ ควอนซาห์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, วาตารุ เอ็นโด, โดมินิก โซโบสไล, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
ครึ่งเเรกลิเวอร์พูลนำ
เริ่มเกมมาได้ไม่ถึง 2 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ทักทายก่อน อเลฮานโดร การ์นาโช ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้แล้ว แต่เป็นลูกล้ำหน้า
ไม่นานหลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็มีโอกาสขึ้นนำบ้าง โดมินิก โซโบสไล ได้หลุดขึ้นไปยิง แต่อ็องเดร โอนานา ปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มเกมได้ไม่นาน ทั้งคู่มีโอกาสได้เตือนกันฝ่ายละครั้ง โดยที่เกมเดินไปค่อนข้างเร็ว สวนกันถึงปากประตู
เกมผ่าน 10 นาที เป็นลิเวอร์พูลที่ได้ครองบอลหาช่องเข้าทำใส่แมนฯ ยูไนเต็ด และทำให้ปีศาจแดงต้องลงไปตั้งโซนรับโดยปริยาย
นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูลมีโอกาสอีกครั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ปาดจากทางซ้ายเข้าไปให้ โดมินิก โซโบสไล ได้ยิงจ่อ ๆ ใกล้จุดโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 23 ลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูจากลูกเตะมุม เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่โหม่งเช็ดไปให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้ฟาดจ่อ ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป พาหงส์แดงออกนำก่อน 1-0
นาทีที่ 26 แมนฯ ยูฯ พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดาย บรูโน แฟร์นานเดส เปิดฟรีคิกและเป็น คาเซมิโร ได้โหม่งชง แต่บอลผ่านหน้าปากประตูไปโดยไม่มีผู้เล่นปีศาจแดงเข้าถึง
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ลิเวอร์พูลน่ากลัวกว่าอย่างชัดเจน ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ราสมุส ฮอยลุนด์ มีโอกาสได้เเตะบอลเพียง 8 ครั้ง และเจ้าตัวยังไม่มีโอกาสได้ทำประตู
นาทีที่ 33 ลิเวอร์พูลได้สวนกลับ หลุยส์ ดิอาซ ไหลบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงด้วยซ้าย แต่โอนาน่ายังพุ่งปัดไว้ได้
ช่วงท้ายครึ่งแรกยังคงเป็นลิเวอร์พูลที่บุกใส่แมนฯ ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่องอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ยังบวกประตูที่ 2 เพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 1-0 โดยที่ปีศาจแดงไม่มีโอกาสยิงประตูแม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่หงส์แดงมีโอกาสยิงไป 14 ครั้ง
ครึ่งหลัง
เริ่มต้นครึ่งเวลาหลังมาได้ไม่นาน รูปเกมไม่ต่างจากท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลลงมาโหมบุกใส่แมนฯ ยูไนเต็ด และเจ้าบ้านก็จวนเจียนจะเสียประตูอยู่หลายครั้ง
แต่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 50 จากความผิดพลาดของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ที่จ่ายขวางสนามพลาด และเป็น บรูโน แฟร์นานเดส ที่ฉวยโอกาสยิงไกล ส่งบอลเข้าสนามไป ซึ่งนับเป็นโอกาสแรกของยูไนเต็ดในเกมนี้
ลูกยิงของบรูโน แฟร์นานเดส ทำให้โมเมนตัมของเกมกลับมาอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน จนกระทั่งในนาทีที่ 67 ปีศาจแดงก็มาได้ประตูขึ้นนำสุดสวยจาก ค็อบบี ไมนู ที่บรรจงปั่นบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมผ่านมือ เคลเลเฮอร์ เข้าประตูไป
หลังจากถูกขึ้นนำ ลิเวอร์พูลก็เริ่มกลับมาเล่นเกมบุกอีกครั้ง ในนาทีที่ 79 หลุยส์ ดิอาซ ได้ยิงหน้าเขตโทษ แต่โอนาน่ายังพุ่งเซฟไว้ได้ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะซ้ำข้ามคานไป
แต่แล้ว วาน บิสซากา ก็มาทำเสียจุดโทษด้วยการทำฟาวล์ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ก่อนจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สังหารเข้าไปในนาทีที่ 84
หลังจากลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ โมเมนตัมก็กลับไปอยู่กับหงส์แดงอีกครั้ง บุกใส่ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายเกม โดยเจ้าบ้านก็เจียนอยู่เจียนไปเช่นกัน
จบเกมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ประตู เก็บเพิ่มคนละ 1 แต้ม ลิเวอร์พูลมี 71 คะแนน อยู่รองจ่าฝูง ส่วนยูไนเต็ดมี 49 แต้ม อยู่อันดับ 6