เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ทีมหักปากกาเซียน ไม่หนีตกชั้น แต่ชิงตั๋วบอลยุโรป

Photo by Rui Vieira / POOL / AFP

เรื่อง : อาฮุย แผ่นดินใหญ่

ฟุตบอลยุโรปฤดูกาลนี้มีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นในหลายลีก นอกเหนือจากการไล่ล่าแชมป์ในหัวตารางและดิ้นรนหนีตกชั้นท้ายตารางที่กำลังเข้มข้นในช่วงปลาย ผลงานของทีมระดับกลางคงถูกมองข้ามไปบ้าง แม้ว่ามีทีมที่น่าพูดถึงหลายทีม หนึ่งในนั้นคือเชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรก แต่ตอนนี้พวกเขากำลังแย่งตั๋วไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปแล้ว

ทีมดาบคู่ทำให้การแย่งตำแหน่งในลีกเข้มข้นมากขึ้น มีลุ้นอันดับ 6 พร้อมโอกาสไปลุ้นชิงตั๋วเล่นยูโรป้าลีกแบบเต็มตัว จากที่ช่วงต้นฤดูกาล พวกเขามีชื่อเป็นหนึ่งในทีมที่ถูกมองว่ามีโอกาสตกชั้นอันดับต้น ๆ ตอนนี้พวกเขากลับมีอันดับเหนือทีมบิ๊ก 6 เดิมอย่างอาร์เซนอล

เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรเก่าแก่ของอังกฤษ เมื่อครั้งลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1992 พวกเขายังคงแข่งขันในฤดูกาลแรกด้วย หลังจากนั้นก็เข้าช่วงยุคตกต่ำในปี 1994 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาตกชั้นจนห่างหายจากลีกสูงสุดถึง 12 ปี

2 ทศวรรษที่ผ่านมา ทีมเก่าแก่ของอังกฤษอยู่ในสภาพขึ้น-ลง เคยกลับมาพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2006-07 เพียงปีเดียว และเคยลงไปเล่นถึงลีกวันระหว่างปี 2011-17 และเลื่อนชั้นมาเล่นแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาล 2017-19 กระทั่งฤดูกาล 2019-20 พวกเขาขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของอังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี

ภายใต้การคุมทีมของ คริส ไวลเดอร์ ทีมดาบคู่เลื่อนชั้นจากลีกวันด้วยตำแหน่งแชมป์ลีกฤดูกาล 2016-17 เลื่อนชั้นมาเล่นแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาลต่อมา พวกเขาใช้เวลา 2 ฤดูกาลในเดอะแชมเปี้ยนชิพจนได้เลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี

ทีมของไวลเดอร์ ในยุคเล่นพรีเมียร์ลีกถูกสื่อลูกหนังหลายรายประเมินมูลค่ารวมของผู้เล่นในทีมอยู่ในอันดับท้ายสุดจาก 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก นิตยสารลูกหนังชื่อดังประเมินมูลค่ารวมของผู้เล่นชุดใหญ่อยู่ที่ประมาณ 63.14 ล้านปอนด์ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 2.18 ล้านปอนด์ต่อคน แม้สื่อบางแห่งรายงานว่า ทีมดาบคู่ใช้งบฯเสริมทีมไปแล้วราว 62 ล้านปอนด์ แต่เมื่อมาดูตัวหลัก ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักเตะระดับกลางค่าตัวไม่เกิน 5 ล้านปอนด์

แม้ผู้เล่นของเชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็นนักเตะระดับดาวดังของภูมิภาค แต่พวกเขาใช้สิ่งอื่นมาทดแทน นั่นคือแท็กติกอันหลักแหลมประกอบกับระบบทีมที่ถูกจัดระเบียบมาอย่างดี

แท็กติกหนึ่งของเชฟฟีลด์ซึ่งโด่งดังในแวดวงลูกหนังคือ การใช้ผู้เล่นกองหลัง 3 คน และให้กองหลังที่ยืนตำแหน่งด้านข้างทั้งสองฝั่งเติมเกมรุกริมเส้นขึ้นไปเหมือนผู้เล่นตำแหน่งแบ็กหรือผู้เล่นตำแหน่งปีก เครดิตของนวัตกรรมนี้เป็นของ อลัน นิล ผู้ช่วยกุนซือของไวลเดอร์ แม้ว่าการให้กองหลังขึ้นไปเล่นเกมรุกไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่อาจกล่าวได้ว่าเป็นวิธีเก่าแก่ซึ่งไม่ได้ใช้กันมานานมากกว่า และของเชฟฟีลด์ ก็เน้นไปที่เติมเกมริมเส้นมากกว่าการสร้างสรรค์เกมแบบที่ต้องอาศัยทักษะระดับสูง

ขณะที่ตัวไวลเดอร์ได้รับคำชมตลอดเรื่องกุนซือหัวก้าวหน้าที่ดึงศักยภาพของผู้เล่นออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในแง่การใช้นักเตะฝีเท้าระดับกลางลงไปและทำผลงานได้ชิงพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้ก็ช่วยเน้นย้ำเรื่องนี้ไปด้วย แต่อีกแง่หนึ่ง

ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการของทีมดาบคู่คือสถานะการเงินของสโมสร ปี 2013 เจ้าชายอับดุลลาห์ จากซาอุดีอาระเบียเข้าเทกโอเวอร์สโมสร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของทีมในเวลาต่อมา และเมื่อ เจ้าชายอับดุลลาห์ เป็นฝ่ายชนะคดีข้อพิพาทกับเจ้าของคนก่อนเรื่องความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินของสโมสร ทำให้เชฟฟีลด์ ดูมีแนวโน้มเชิงบวกในทางการเงิน ถึงแม้ทรัพย์สินหลายอย่างของสโมสรยังติดจำนองกับธนาคาร (ตราบใดที่สโมสรชำระเงินตามกำหนด)

ในภาพรวม เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด เป็นอีกทีมที่น่าจับตามองในฐานะทีมระดับกลางที่ทำผลงานได้น่าประทับใจทั้งในและนอกสนาม หากทีมดาบคู่ได้ที่นั่งไปชิงตั๋วยูโรป้าลีกด้วย ยิ่งเป็นโจทย์ท้าทายและเป็นอีกหนึ่งหลักไมล์ของฟุตบอลอังกฤษซึ่งต้องจับตาอีกครั้ง

นับตั้งแต่เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างปรากฏการณ์น่าทึ่งกับแชมป์พรีเมียร์ลีกหลังเลื่อนชั้นขึ้นมาไม่กี่ฤดูกาล หลายคนฝันเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ในความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่า เทพนิยายแบบนั้นเกิดขึ้นยาก หากใกล้เคียงกว่านั้น การที่สโมสรระดับกลางจะก้าวขึ้นเบียดแย่งสถานะกับ “บิ๊ก 6” เดิมย่อมเป็นปัจจัยที่ทำให้ลีกแข่งขันกันเข้มข้นขึ้น