AWC เผย Q3/66 โหมลงทุนกว่า 1 หมื่นล้าน ดันกำไรพุ่ง 1.13 พันล้านบาท

INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit

AWC มุ่งพัฒนาสินทรัพย์ เปิดตัวโรงแรม-ห้องอาหารระดับโลกรองรับความต้องการของตลาดต่อเนื่อง รวมมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาทในไตรมาส 3 ตอบโจทย์เป้าหมายกลยุทธ์การเติบโต ดันกำไรไตรมาส 3/66 พุ่ง 1,136 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนโควิด

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า AWC มุ่งพัฒนาทรัพย์สินคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเปิดตัวโรงแรมและห้องอาหารชั้นนำระดับโลกมากมาย

เพื่อรองรับความต้องการของตลาด พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเที่ยว การบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่พิเศษให้กับลูกค้า ส่งเสริมประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

โดยในไตรมาสที่ 3 นี้ AWC มีจำนวนห้องพักรวม 6,034 ห้อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 76 เทียบกับก่อนโควิด-19 ในปี 2562 จากการเปิดดำเนินงานหลายโครงการ อาทิ การเปิดโรงแรม INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit ที่ออกแบบและก่อสร้างตามกรอบการรับรองของมาตรฐานอาคาร Excellence in Design for Greater Efficiency (EDGE)

การเปิดโรงแรม InterContinental Chiang Mai The Mae Ping ซึ่งเป็นโรงแรมระดับลักเซอรี่ ภายใต้แบรนด์ InterContinental แห่งแรกของภาคเหนือ และเป็นโรงแรมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแห่งแรกของไทย ที่ให้แขกได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและศิลปะล้านนา

การเปิด Chiang Mai Marriott Hotel โรงแรมแบรนด์ Marriott แห่งแรกของภาคเหนือ ที่มีพื้นที่เพื่อรองรับการจัดงานประชุม MICE ระดับลักเซอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่

นอกจากนี้ ยังเปิดห้องอาหารใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์ที่มีเอกลักษณ์ ดึงดูดลูกค้าหลากหลายไลฟ์สไตล์ อาทิ การเปิดห้องอาหารจีน Yue Restaurant and Bar ที่โรงแรม Courtyard by Marriott Phuket Town และห้องอาหารญี่ปุ่นรวม 4 ร้านต้นตำรับระดับพรีเมี่ยม Kissuisen ที่โรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse โดยปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมของ AWC ที่เปิดดำเนินการทั้งหมด 22 โรงแรม

โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ตามงบฯการเงิน มีกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดา) อยู่ที่ 692 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการเปรียบเทียบราคาห้องพักและอัตราการเข้าพัก (Revenue Generation Index หรือ RGI) ในภาพรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโรงแรมในกลุ่มเดียวกันที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

อาทิ โรงแรม Courtyard by Marriott Phuket Town มีค่า RGI เท่ากับ 254 และโรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse เท่ากับ 218 เป็นต้น

นอกจากนี้ AWC ยังมุ่งเสริมความแข็งแกร่งพอร์ตโฟลิโอกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทําเลยุทธศาสตร์ เสริมศักยภาพด้วยการพัฒนาโครงการคุณภาพในพอร์ตโฟลิโอ พร้อมร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก เพื่อสนับสนุนการเติบโตของทรัพย์สินดำเนินงานในการสร้างกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดากลุ่มธุรกิจ) อย่างต่อเนื่อง

“ไตรมาส 3/2566 AWC มีรายได้รวมกว่า 4,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,136 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งแม้อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสามารถผลักดันศักยภาพของทรัพย์สิน Ramp Up สู่ระดับดำเนินงานปกติ มูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท สร้างผลตอบแทนกระแสเงินสด หรือ EBITDA Yield สูงถึงร้อยละ 10.2

นางวัลลภากล่าวว่า ในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีทรัพย์สินดำเนินงานที่สามารถสร้างรายได้อยู่ที่กว่าร้อยละ 85 รวมมูลค่า 125,758 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2562

โดยสะท้อนศักยภาพการดำเนินงานตามกลยุทธ์ GROWTH-LED Strategy โดยสามารถเปิดตัวโรงแรมและห้องอาหารหลากหลายแห่งในไตรมาส 3 รวมมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท

“ส่วนผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกตามงบฯการเงินของปี 2566 AWC มีการเติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดากลุ่มธุรกิจ) ที่ 7,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.9 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน”

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทั้งโรงแรมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมในเครือ AWC เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ใน 9 เดือนแรกของปีสูงถึง 3,619 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน