“นิวเจนแอร์ไลน์ส” โอด วิกฤตเชื่อมั่น “จีน” รอบนี้หนักที่สุด

สาย การบิน “นิวเจน” หรือ New Gen Airways ถือเป็นสายการบินน้องใหม่ที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการธุรกิจสาย การบินของไทยอย่างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในตลาดเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลต์

โดยมุ่งเน้นให้บริการขนส่งผู้โดยสารและนักท่อง เที่ยวเส้นทางบินระหว่างไทย-จีน ที่ให้บริการอยู่กว่า 30 เส้นทางบิน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเส้นทางบินสู่จีน ทั้งระหว่างเมืองหลักสู่เมืองหลัก และเมืองหลักเมืองรองของจีน

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษ “เจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนิวเจน ผู้บริหาร New Gen Airways ถึงภาพรวมของตลาดจีนในขณะนี้ รวมถึงปัญหาและผลกระทบจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน เนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาไว้ดังนี้

โดย “เจริญพงษ์” บอกว่า ปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่ที่ 9.8 ล้านคน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวถึง 11 ล้านคน แต่สถานการณ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงขณะนี้พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างหนักในทุก ๆ เดือน

และหากเทียบกับ เมื่อต้นปีตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน จะยิ่งพบว่าสถานการณ์ของนักท่องเที่ยวจีนในเวลานี้กระทบหนักมากนับตั้งแต่ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาและกระทบหนักในทุกภาคส่วน ทั้งธุรกิจสายการบิน บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงบริการด้านการท่องเที่ยวทุกแขนง เรียกว่าวิกฤตรอบนี้กระทบหนักที่สุดถ้าเทียบกับทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ที่สำคัญ ถึงเวลานี้ภาพโดยรวมก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อไหร่ ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยรวมไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าได้ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการวางแผนการทำตลาดของผู้ประกอบการทุกภาคส่วน

“ตอนนี้ทุกคนประเมินความเสียหายของตัวเองกันอยู่ แต่ไม่อยากเปิดเผยเพราะมันกระทบต่อภาคการลงทุนโดยรวมของประเทศ”

“เจริญพงษ์” บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการภาคเอกชนได้พยายามนำเสนอถึงปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ เสนอไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นความ เชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาโดยเร็วไปแล้วหลายครั้งหลายครา นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา แต่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่ได้ประกาศมาตรการอะไรออกมาอย่างเป็น จริงเป็นจังแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจยังมองในแง่ดีว่าคนจีนยังสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน ประเทศไทยอยู่เหมือนเดิม โดยอาจลืมมองไปว่าเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตรอบนี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง มาก มีคนของเขาเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ผู้นำของประเทศจีนต้องออกมาเตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองให้ระมัดระวัง หากจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งคำเตือนของผู้นำประเทศเปรียบเสมือนคำสั่งห้ามระดับหนึ่ง เพียงแต่ยังไม่ได้ออกหนังสือสั่งห้ามเป็นทางการเท่านั้น

สำหรับ “นิวเจนแอร์เวย์ส” นั้น “เจริญพงษ์” บอกว่า ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะเป็นสายการบินที่ทำตลาดชาร์เตอร์ไฟลต์ตลาดจีนทั้ง 100% โดยให้บริการเส้นทางบินสู่เมืองต่าง ๆ ของประเทศจีนรวมกว่า 30 จุดหมายปลายทาง ทั้งเมืองหลักและเมืองรองโดยตลอดช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา นิวเจนแอร์เวย์สมีความจำเป็นต้องยกเลิกเส้นทางบินในบางเส้นทางไปบ้าง อาทิ เส้นทางที่บินออกจากภูเก็ต ส่วนเส้นทางบินออกจากกรุงเทพฯนั้นก็ทำการปรับลดความถี่เที่ยวบินลงในบางเส้น ทางด้วย

“บางเที่ยวบินเราต้องหยุดชั่วคราวไปนานกว่า 3 เดือนแล้ว เช่น ภูเก็ต-หางโจว เป็นต้น

ส่วนเส้นทางบินอื่น ๆ ถ้าบริษัทเอเย่นต์ทัวร์ที่เป็นคู่ค้ารายงานตัวเลขมาแล้วไม่คุ้มกับต้นทุน การบิน ทางสายการบินก็จะยุบรวมเที่ยวบินหรือต้องยกเลิกเที่ยวบินไป ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่มากพอสมควรนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้สถานการณ์โดยรวมก็ยังไม่ได้ปรับตัวดีขึ้น”

ขณะเดียวกัน สภาพที่เกิดขึ้นนี้ยังส่งผลกระทบต่อแผนการรับมอบเครื่องบินใหม่ของ “นิวเจนแอร์เวย์ส” จากเดิมที่วางไว้ว่าปีนี้จะรับมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 4 ลำ ออกไปเป็นปีหน้าทั้งหมด

ซีอีโอสายการบินนิวเจนแอร์เวย์สยังบอก ด้วยว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทางภาคเอกชนได้รวมตัวกันเพื่อนำเสนอปัญหา ผลกระทบที่เกิดขึ้นไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองในทิศทางที่ดีนัก ทำให้ขณะนี้เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่าผู้ให้บริการชาร์เตอร์ไฟลต์ของทางจีนเองก็ ปรับตัวด้วยการหันไปทำตลาดประเทศอื่น ๆ

อาทิ เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย ฯลฯ แทนประเทศไทยแล้ว

พร้อมย้ำว่า สำหรับ “นิวเจนแอร์เวย์ส” ก็ยอมรับว่าวิกฤตรอบนี้หนักที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการสายการบินมาเช่นกัน…