“ทราเวลโลก้า” ยิ้มยอดโหลดพุ่งขึ้น No.1

“ทราเวลโลก้า” ยิ้มรับยอดโหลดพุ่ง เชื่อเป็นเบอร์ 1 OTA ไทย ตั้งเป้าปีหน้าเพิ่มอีกเท่าตัว เหตุท่องเที่ยวโตต่อเนื่องกลุ่มเจนวายเที่ยวมากขึ้น-สายการบินแข่งขันสูง พร้อมเสริมโปรดักต์ใหม่ต่อเนื่อง ชู 3 กลยุทธ์มัดใจลูกค้า

นายธีร์ ฉายากุล ผู้จัดการทราเวลโลก้า ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาทราเวลโลก้ามียอดดาวน์โหลดในไทย 4 ล้านครั้ง ทำให้มีอัตราเติบโตเป็น 3 เท่าจากปีก่อน รวมยอดใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ มีจำนวนถึง 40 ล้านดาวน์โหลด โดยเชื่อมั่นว่าเมื่อรวมยอดดาวน์โหลดและคุณภาพของโปรดักต์ ทราเวลโลก้าคือ OTA อันดับ 1 ของไทย ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้ายอดดาวน์โหลดปีหน้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือเพิ่มเป็น 8 ล้านครั้ง

“จากข้อมูลด้านมูลค่าตลาดการท่องเที่ยว ประเทศไทยมีรายได้จากคนไทยเที่ยวไทย 9.3 แสนล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 5.4% ทำให้เชื่อมั่นว่าท่องเที่ยวไทยจะยังคงโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นกลุ่มชนชั้นกลางที่มีรายได้มากขึ้นก็ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวและยินดีจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์มากขึ้น เมื่อไปรวมเข้ากับการแข่งขันของสายการบินต่าง ๆ ก็จะยิ่งผลักดันให้ตลาดท่องเที่ยวโตเพิ่มอีก และเชื่อว่าภายในปี 2558-2568 การท่องเที่ยวไทยจะเติบโตขึ้นอีก 5 เท่า”

สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้ที่ใช้ทราเวลโลก้าสูงสุด คือ “เจนวาย” หรือช่วงอายุ 25-34 ปี คิดเป็น 40% รองลงมาคือช่วงอายุ 18-24 ปี 30% ช่วงอายุ 35-44 ปี 25% และอื่น ๆ อีก 3% และประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางสูงสุด คือ Asia big 4 ได้แก่ ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน (รวมถึงสิงคโปร์) นอกจากนั้น ช่วงไฮซีซั่นตลาดในประเทศก็เติบโตสูง มียอดการค้นหาเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ 80%

“ในปี”61 ที่ผ่านมา ทราเวลโลก้าได้เปิดตัวโปรดักต์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า 2 อย่าง ได้แก่ การจองแพ็กเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก และ airport transport บริการขนส่งจากสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ และเติมลูปการให้บริการของทราเวลโลก้าให้ครบวงจร”

ด้านการให้บริการ ปัจจุบันลูกค้าทราเวลโลก้านิยมใช้บริการด้านการจองตั๋วเครื่องบินเป็นอันดับ 1 และลำดับต่อมาคือ บริการจองโรงแรม โดยทราเวลโลก้าได้รับค่าคอมมิสชั่นจากบริการด้านตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ 3-8% และด้านจองโรงแรมอยู่ที่ 15-30%

นายธีร์กล่าวต่อไปว่า ทราเวลโลก้าเชื่อในแนวคิด enabling mobility และทำงานด้วย 3 กลยุทธ์หลักคือ 1.big data innovation ในการใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อการตอบโจทย์ลูกค้า 2.customer centric ในการยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เช่น เป็น OTA เจ้าแรกที่เพิ่มช่องทางในการชำระเงิน นอกจากบัตรเครดิต 3.content marketing ที่ปัจจุบันทราเวลโลก้ามียอดกดไลก์ทาง

เฟซบุ๊กกว่า 4 ล้าน และมียอด engagement กว่า 1 แสนต่อสัปดาห์

“นอกจากเรื่องราคาแล้ว การพัฒนาโปรดักต์เพื่อรองรับลูกค้าก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจ โดยทราเวลโลก้าได้พัฒนาระบบให้สามารถเข้าถึงง่ายในการค้นหา พร้อมทั้ง

พัฒนาบริการหลังการขายให้มีระบบ stayguarantee ดูแลลูกค้าตลอดการใช้งานบริการคอลเซ็นเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง” นายธีร์กล่าวและว่า ปัจจุบันทราเวลโลก้ามีพาร์ตเนอร์เป็นสายการบินกว่า 100 สายการบินทั่วโลก ในส่วนโรงแรมอีกกว่า 15,000 โรงแรม และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนพาร์ตเนอร์ขึ้นอีกในปีหน้า

ส่วนปลายปีนี้ทราเวลโลก้าเตรียมจับมือกับพาร์ตเนอร์จัดโปรโมชั่นสำหรับการท่องเที่ยวเกาหลี-ญี่ปุ่น กระตุ้นยอดการจองเพิ่มอีกด้วย