“คาเธ่ย์ กรุ๊ป” เพิ่มเน็ตเวิร์ก สู่เมืองหลัก-เมืองรองทั่วโลก

สัมภาษณ์

ทยอยต้อนรับสมาชิกใหม่ “แอร์บัส A350-1000” เข้ามาเสริมฝูงบินตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 ที่ผ่านมาแล้ว สำหรับสายการบิน “คาเธ่ย์ แปซิฟิค” สายการบินที่มีฮับการบินหลักอยู่ที่ประเทศฮ่องกง “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “ยงยุทธ ลุจินตานนท์” ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและเมียนมา บริษัท คาเธ่ย์ แอร์เวย์ จำกัด ผู้บริหารสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค และคาเธ่ย์ ดราก้อน ถึงทิศทางการดำเนินงานสำหรับปีนี้ไว้ดังนี้

เสริมฝูงบินใหม่อีกตรึม

“ยงยุทธ” บอกว่า ขณะนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค มีคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350-1000 เข้ามาเสริมฝูงบินอีกประมาณ 28 ลำ ซึ่งจะทยอยรับมอบได้ครบภายใน 3 ปี หรือประมาณปี 2564 โดยเครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล A350 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการปฏิบัติการที่เป็นเลิศ บินได้ไกล ไร้เสียงรบกวนจากภายนอก และประหยัดเชื้อเพลิง

โดยในแผนที่วางไว้นั้น “คาเธ่ย์ แปซิฟิค”จะนำเครื่องบินรุ่นนี้มาบินวิสัยไกล โดยเฉพาะเส้นทางบินสู่ยุโรป, อเมริกา ซึ่งที่ผ่านมาสายการบินก็ใช้เครื่องแอร์บัส A350 ที่มีอยู่ทำการบินตรงเส้นทางจากฮ่องกงสู่นิวยอร์กได้แบบไม่ต้องแวะพัก (ระยะทำการบินราว 17-18 ชั่วโมง) รวมถึงให้บริการเส้นทางบินสู่เมืองสำคัญอย่างมาดริด, เทลอาวีฟ, อัมสเตอร์ดัม,แมนเชสเตอร์ และซูริก ฯลฯ อีกด้วย

เพิ่มเส้นทางบินใหม่ทั่วโลก

“ยงยุทธ” บอกว่า สำหรับปีนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค จะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นระยะ เช่น เปิดเส้นทางบินใหม่สู่ซีแอตเติล ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนไทย ทั้งกลุ่มเดินทางท่องเที่ยว กลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ โดยองค์กรจำนวนมากในประเทศไทยมีสำนักงานใหญ่ หรือ head office ไม่ว่าจะเป็นไมโครซอฟท์ สตาร์บัคส์ ฯลฯ

ขณะที่การท่องเที่ยวทางเรือ หรือครุยส์ ของเมืองซีแอตเติลก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน จึงเชื่อว่าการเปิดเส้นทางบินตรงสู่เมืองซีแอตเติลของคาเธ่ย์ แปซิฟิค จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มนักเดินทางของไทยสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเมืองที่อยู่ในแผน ทั้งเส้นทางบินระยะใกล้และระยะไกล อาทิ ในเส้นทางระยะใกล้นั้น

ขณะนี้มีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่สู่เมืองเมืองรองของญี่ปุ่น โดยเน้นเมืองรองที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันคาเธ่ย์ฯได้เปิดเส้นทางบินสู่เมืองหลักของญี่ปุ่นไปครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว, โอซากา, ฟูกูโอกะ ฯลฯ

รวมถึงเส้นทางบินสู่ดาลัด เมืองรองของเวียดนาม, เมดาน เมืองรองของอินโดนีเซีย และดาเวา เมืองรองของฟิลิปปินส์ เป็นต้น

สำหรับตลาดประเทศไทยนั้น “ยงยุทธ” บอกว่า นอกจากเส้นทางสู่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลักแล้ว “คาเธ่ย์ แปซิฟิค” ยังให้บริการเส้นทางบินตรงสู่ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยใช้แบรนด์ “คาเธ่ย์ ดราก้อน”

ซึ่งเป็นซิสเตอร์แอร์ไลน์ หรือสายการบินในเครือข่าย ซึ่งมีฮับการบินอยู่ที่ฮ่องกงเช่นกัน แต่ให้บริการเส้นทางบินเข้าสู่เมืองรองในภูมิภาคเอเชียและเมืองไทย

ชู “คาเธ่ย์ ดราก้อน” เสริมแกร่ง

พร้อมทั้งอธิบายด้วยว่า แบรนด์ “คาเธ่ย์ แปซิฟิค” นั้น จะมุ่งโฟกัสและทำการบินสู่เส้นทางบินหลัก และเป็นเส้นทางบินระยะไกลเป็นหลัก ส่วนแบรนด์ “คาเธ่ย์ ดราก้อน” นั้น จะมุ่งเน้นเจาะตลาดเมืองรองและเมืองต่าง ๆ ในประเทศจีนอีกประมาณ 24 เมือง ซึ่งแนวทางและยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจของกลุ่มคาเธ่ย์นั้นยังคงมุ่งขยายทั้ง 2 แบรนด์ไปพร้อม ๆ กัน และเชื่อมโยงเครือข่ายบินซึ่งกันและกัน

ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและเมียนมา ยังเพิ่มเติมในส่วนของฝูงบินในเครือข่ายด้วยว่านอกจากเครื่องบินแอร์บัส A350-1000 ซึ่งเป็นเครื่องบินใหญ่รุ่นล่าสุดแล้ว คาเธ่ย์ฯ ยังมีเครื่องบินรุ่นใหม่อีกหลากหลายรุ่น อาทิ แอร์บัส A320 นีโอ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในตระกูลของแอร์บัส A320 ซึ่งจะเข้ามาเสริมฝูงบินอีกในปีหน้า ซึ่งอยู่ในแผนทยอยรับมอบเข้ามาอีกประมาณ 25 ลำ ภายใน 4 ปีนี้

โดยเครื่องรุ่นใหม่ดังกล่าวนี้จะนำมาใช้สำหรับรองรับแผนการเปิดเส้นทางบินสู่ทั้งเมืองหลักและเมืองรองในภูมิภาคเอเชียเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจะเข้ามาทดแทนเครื่องเก่าที่มีแผนปลดระวางด้วย

นั่นหมายความว่า ในอีก 3-4 ปีข้างหน้านี้ คาเธ่ย์ฯ จะมีเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบินอีกราว 40-50 ลำ ซึ่งจะทำให้ “คาเธ่ย์ กรุ๊ป” เป็นกลุ่มสายการบินหนึ่งที่มีเครื่องบินอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในน่านฟ้าหรืออยู่ที่ประมาณ 5-6 ปีเท่านั้น

รักษามาตรฐาน “การบินโลก”

จากแผนดังกล่าวนี้จะทำให้ภาพรวมของกลุ่มคาเธ่ย์มีความสดใส เฟรชชี่ มีเครื่องบินที่ทันสมัย ประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ขณะที่ในส่วนของบริการอื่น ๆ นั้น ที่ผ่านมาก็ได้พยายามพัฒนาปรับปรุงห้องพักรับรองผู้โดยสาร (เลานจ์) ทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะน่าครบสมบรูณ์ทั้งหมดภายในปีนี้ รวมทั้งบริการอื่น ๆ เรียกว่า “คาเธ่ย์ กรุ๊ป” จะเป็นกลุ่มเครือข่ายสายการบินที่มีความพร้อมและครบวงจรมากที่สุดสายการบินหนึ่ง ทั้งส่วนที่เป็นออนแอร์ (เครื่องบิน) และออนกราวนด์ (เลานจ์) รวมทั้งให้บริการในเดสติเนชั่นที่หลากหลายทั้งระยะใกล้และระยะไกล

“ยงยุทธ” ย้ำว่า ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นการพัฒนาเพื่อรักษาอันดับการให้บริการในภาพรวมของกลุ่มคาเธ่ย์ให้อยู่ในระดับแถวหน้าต่อไปให้ได้นั่นเอง