ชวนคนกรุงมุ่งเมืองคอนกับแคมเปญ “กรุงเทพ มาหา นคร” เที่ยวได้เที่ยวดี เที่ยวได้ทั้งปี สุขขี ที่เมืองคอน

“นครศรีธรรมราช” เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งทะเลและภูเขา อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งธรรมะ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน งดงามด้วยเสน่ห์แห่งวิถีถิ่น พร้อมภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” ชวนคนเมืองกรุง มุ่งเมืองคอน เพื่อการพักผ่อน เติมพลังกายใจ โดยได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแหล่งธรรมชาติอันงดงาม ทั้งทางทะเลและภูเขา ซึ่งกระจายตัวอยู่ในอำเภอต่างๆ พร้อมให้นักท่องเที่ยวจากเมืองใหญ่ เข้ามาสัมผัสและผ่อนคลายในนครแห่งความสุขกันได้ทั้งปี

“สุชาติ ชายมัน” ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช บอกว่า นครศรีธรรมราช มีเที่ยวบิน มีการเดินทางทั้งสี่เส้นทาง รถ เรือ ราง อากาศ มุ่งหน้ามาสู่นครฯได้ เป้าหมายหลักคือต้องการให้คนมาเที่ยวนครศรีธรรมราช

ณ วันนี้ต้องการชูเรื่องการท่องเที่ยวเมืองรอง นโยบายของรัฐบาลมุ่งเน้นให้สนับสนุนการท่องเที่ยวโดยชุมชน เรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวกรุงเทพมหานคร ตามแคมเปญของ โครงการ กรุงเทพ มาหา นคร ซึ่งนครพร้อมเปิดบ้านให้กับประชาชนทุกคนให้สัมผัสสิ่งดีดี ที่ที่มีทั้งธรรมชาติ ตั้งแต่เขา ป่า นา เล ครบองค์ประกอบทั้งหมด มีป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์ มีเทือกเขาที่สูงเป็นอันดับ 9 ของประเทศ เขาหลวง ที่อ่าวเตล็ดมีเกาะนุ๊ย ซึ่งมีเรื่องราวของรอยเท้าหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด และเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.ขนอม และ อ.สิชล ผ่านเส้นทางเขาและชายทะเล หากเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ที่สวยงามแน่นอน นครศรีธรรมราชเป็นนครสองธรรมคือธรรมะและธรรมชาติ

สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนนครสองธรรม แดน “ธรรมะ” และ “ธรรมชาติ” อย่างนครศรีธรรมราช คือ การเข้าเที่ยวชมและกราบสักการะพระธาตุเมืองนคร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” หรือ ที่ชาวนครเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดพระธาตุ” โบราณสถานสถานอันศักดิ์สิทธิ์ มิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศาสนิกชน ทั้งหลาย มีความน่าอัศจรรย์ใจอีกอย่างหนึ่งจนผู้คนต่างพากันเรียกว่า “พระธาตุไร้เงา” เนื่องจากองค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหน จึงกลายเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์สัญลักษณ์ของจังหวัด

มาถึงอัญมณีแห่งอ่าวไทย ด้วยชายหาดที่ทอดตัวยาวราว 32 กิโลเมตร ในอาณาบริเวณที่ครอบคลุมอ่าวใหญ่น้อยจำนวน 16 อ่าว คือพื้นที่เหนือสุดของจังหวัด แม้จะเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดของเมืองนครฯ แต่ “ขนอม” ก็เต็มเปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ

อ.ขนอม อยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ประมาณ 100 กิโลเมตร เมืองชายหาดแห่งนี้ยังพาเราออกไปค้นหาความงามของธรรมชาติ และประสบการณ์หนึ่งเดียวที่ไม่สามารถหาชมได้ที่ไหน

เริ่มต้นจากการออกเรือไปชม “โลมาสีชมพู” ซึ่งพบเห็นได้บริเวณอ่าวเตล็ด เนื่องจากเป็นอ่าวที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางทะเล มีหญ้าทะเล 5 สายพันธุ์ กลุ่มอาหารของโลมา

จากนั้นแวะสักการะ “รูปหล่อหลวงปู่ทวด” ที่ประดิษฐานบนเกาะนุ๊ย พบกับความอัศจรรย์ใจของ “บ่อน้ำจืดกลางทะเล” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตำนานของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หนึ่งใน Unseen ของเมืองไทย เนื่องจากบนเกาะนี้มีบ่อน้ำจืดที่มีรูปร่างคล้ายกับรอยเท้า สามารถมองเห็นได้ในตอนที่น้ำทะเลลดลง หากเป็นช่วงที่น้ำขึ้นจะถูกน้ำทะเลท่วม มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งที่หลวงปู่ทวดได้เดินทางด้วยเรือจากสงขลาไปยังกรุงศรีอยุธยา ระหว่างทางเกิดพายุและทำให้เรือขาดแคลนน้ำจืด หลวงพ่อทวดจึงแสดงปาฏิหาริย์ด้วยการเหยียบน้ำกลางทะเล จนกลายเป็นแอ่งน้ำจืดกลางทะเลให้ลูกเรือได้

ไม่ไกลจากเกาะนุ้ยนอกและอ่าวเตล็ด มีอีกหนึ่ง Unseen ที่ต้องห้ามพลาด คือ “เขาหินพับผ้า” แนวผาหินที่มีลักษณะเฉพาะตัว ดูแปลกตาและงดงาม ราวกับผลงานทางศิลปะที่ธรรมชาติบรรจงสร้างมา เนื่องจากลักษณะที่คล้ายแผ่นหินเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ซึ่งมาจากการทับถมของตะกอนหินใต้ท้องทะเลมานานกว่า 280 ล้านปี

ด้วยลักษณะคล้ายกับผ้าที่พับซ้อนๆ กัน ชาวบ้านจึงเรียกว่า “เขาหินพับผ้า” ส่วนชาวต่างประเทศมักเรียกว่า “แพนเค้กร็อค” (Pancake Rock) เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับ Pancake Rock สถานที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้าน Punakaiki บริเวณเกาะใต้ฝั่งตะวันตกของประเทศนิวซีแลนด์

ถัดมาเป็น อ.สิชล หนึ่งในเมืองชายหาดอันงดงามของจังหวัดอยู่ติดกับ อ.ขนอม มีสถานที่อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ

มีเรื่องเล่าว่า ในอดีตเมื่อครั้งที่หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เดินทางกลับจากกรุงศรีอยุธยา ได้มาปักกรดอยู่ใน อ.สิชล ซึ่งขณะนั้น มีลูกศิษย์ชื่อ “ไอ้ไข่” เป็นวิญญาณเด็กผู้ชายอายุประมาณ 9-10 ขวบติดตามมาด้วย เมื่อได้พบว่าสถานที่แห่งนี้มีทรัพย์สมบัติและศาสนสถานที่มีความสำคัญ หลวงปู่จึงได้ให้ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติอยู่ตั้งแต่นั้นมา จวบจนปัจจุบัน คือพื้นที่ของ “วัดเจดีย์” ต.ฉลอง อ.สิชล ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุราวกว่า 1,000 ปี

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้เส้นทางท่องเที่ยวสุดชิลล์บนถนนเส้นใหม่ ชื่อว่า “ถนนพลายจำเริญ” ที่เชื่อมต่อระหว่าง อ่าวท้องหยี อ.ขนอม และ บ้านเขาพลายดำ อ.สิชล เส้นทางการท่องเที่ยวเลียบชายทะเลอันงดงามของทะเลฝั่งอ่าวไทย ด้วยโค้งเว้าของถนนเลียบภูเขาและทะเล

ถัดมาเป็น ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ “จุดชมทะเลหมอกเขาเหล็ก” มีชื่อเรียกตามความเป็นมาในอดีต ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองแร่เหล็กมาก่อนที่จะปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2512 เขาเหล็กเป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 330 เมตร และมีทะเลหมอกให้ชมเกือบตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นวิวตำบลกรุงชิง ที่โอบล้อมด้วยภูเขาใหญ่น้อยสลับซับซ้อนแบบสุดลูกหูลูกตา

รวมทั้ง “วัดภูเขาเหล็ก” ที่ตั้งอยู่ใน หมู่ 2 บ้านเขาเหล็ก อ.นบพิตำ เป็นวัดที่มีพระอุโบสถที่มีความสวยงาม ทาด้วยสีขาวทั้งหลัง มีพญานาคสีทองอร่ามอยู่ระหว่างทางเข้าอุโบสถ รวมถึงภายในวัดยังมีเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่กลางน้ำ อีกทั้งภายในวัดยังพบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าอยู่ภายในถ้ำพระบาท นับเป็นวัดที่งดงามและเงียบสงบ ด้วยความร่มรื่น ร่มเย็น เหมาะแก่การไปเที่ยวชมหรือการปฏิบัติธรรม

ใน อ.นบพิตำ ยังมีจุดท่องเที่ยว เช่น “บ่อน้ำพุร้อน” ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงไปแช่ตัว แช่เท้า หรือ ทำสปา หรือ “ชุมชนบ้านหมอนมด” ต.นบพิตำ ซึ่งมีคลองหมอนมดเป็นสายน้ำที่แยกจาก คลองกลาย ชุมชนเข้มแข็งที่รวมตัวกันในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต้นน้ำกลาย เพื่อนำผักและผลไม้มาแปรรูปให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ เช่น มังคุด ต้นกระพ้อ และใบเขลียง (หรือใบเหลียง)

นอกจากนั้น ยังมีบริการโฮมสเตย์ ซึ่งถือเป็น “ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน” ตั้งอยู่ริมสายน้ำคลองกลายอันแสนสดชื่น หากติดต่อมาล่วงหน้าก็จะได้ชิมอาหารท้องถิ่นฝีมือของชาวบ้าน เช่น ขนมจีนที่มีน้ำยาถึง 4 ชนิด คือ น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำแกงไตปลา และ น้ำยาพริก พร้อมสารพัดผักที่มาแบบจัดเต็ม จนต้องบอกว่า “หรอยจังหู” อิ่มท้อง อิ่มตา อิ่มใจ เติมสุขภาพดีๆ ในบรรยากาศอันแสนสดชื่น ในนครแห่งความสุขแห่งนี้

เรียกได้ว่า เที่ยวได้เที่ยวดี เที่ยวได้ทั้งปี สุขขี ที่เมืองคอน