“แอร์เอเชีย” ย้ำกักตัว 14 วันไม่ใช่ทางออกเปิดประเทศ แนะแบกรับความเสี่ยงร่วมกัน

“แอร์เอเชีย” ยันปิดประเทศหนีโควิดไม่ใช่คำตอบ แนะตรวจเชื้อก่อนเข้าประเทศเพียงพอ “กักตัว 14 วัน” ไม่ใช่ทางออก ผู้คนจำเป็นต้องแบกรับความเสี่ยงร่วมกัน

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทแอร์เอเชีย เปิดเผยในงาน airasia.com Regional Media Roundtable เกี่ยวกับการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนว่า ตนมองว่าการยืนยันปิดด่านชายแดนไม่ใช่ทางออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมากที่สุดในอาเซียน ดังนั้น การเดินหน้าเปิดประเทศเพื่อรักษารายได้จากการท่องเที่ยวจึงเป็นแนวทางที่สมควรจะเกิดขึ้น

“แต่โดยส่วนตัวมองว่าการทดสอบการติดเชื้อ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อให้ทราบผลทันทีเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว และการกำหนดเงื่อนไขกักตัว 14 วันภายในห้องพักอาจไม่ใช่ทางออกไม่ว่าจะเป็นสำหรับประเทศไทยเองหรือกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เพราะเราไม่อาจเปิดการเดินทางในขณะที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องติดอยู่ในโรงพยาบาลหรือโรงแรมตลอด 14 วัน และถ้าหากต้องการจะเปิดประเทศจริงก็อาจจำเป็นที่จะต้องมีการแบกรับความเสี่ยงในส่วนนี้เกิดขึ้น”

นอกจากนั้น เชื่อว่าในหลายประเทศอาเซียนมีแนวปฏิบัติทางด้านสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง ทำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการใส่หน้ากากหรือการเว้นระยะห่างทางสังคมที่สามารถลดการติดเชื้อไปได้อย่างมาก ดังนั้น การตรวจสอบเชื้อก่อนเข้าด่านชายแดนเพียงพอที่จะใช้เป็นมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยว และแม้จะไม่มีมาตรการป้องกันด้วยการกักตัว 14 วันหลังเข้ามาภายในประเทศ ในระหว่างที่รอทางออกที่ดีที่สุดอย่างวัคซีนจึงเป็นเวลาที่ผู้คนจะต้องแบกรับความเสี่ยงเล็กน้อยร่วมกัน เพราะการการปิดชายแดนนานๆ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์ไม่ใช่คำตอบ