“ทริปดอทคอม” ชี้ ท่องเที่ยวต่างประเทศฟื้น ปี 2565

ท่องเที่ยว

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทำงานและการเดินทาง รวมถึงเปลี่ยนแปลงความต้องการ ความคาดหวัง และความชื่นชอบของนักเดินทางด้วย รวมทั้งทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

โดยในปี 2563 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวประสบปัญหาสัดส่วน GDP ลดลงถึง 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีคนว่างงานถึง 63 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด การดำเนินชีวิตทางสังคมเริ่มทยอยดีขึ้น ในทางกลับกันความต้องการของนักเดินทาง และความเชื่อมั่นในเชิงบวกของผู้บริโภคกับการเดินทางยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวังให้กับผู้ที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

“เจน จี ซุน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทริปดอทคอม กรุ๊ป ได้จัดทำข้อมูลแนวโน้มการท่องเที่ยว และแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวปี 2564

และอนาคตในเรื่องการฟื้นตัวในระดับโลกและระดับภูมิภาคว่า การคาดการณ์ล่าสุดของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ในเดือนตุลาคม 2564 ไม่เพียงแสดงทิศทางการเติบโตที่สดใสของตลาดภายในประเทศสำหรับปี 2564 เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการเดินทางระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2565 และในอนาคต

หลังจากการลดลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมทางการเดินทางและท่องเที่ยวร้อยละ 49.1 ในปี 2563 และการสูญเสียรายได้เกือบ 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เป็นที่คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมทางการเดินทางและท่องเที่ยว (travel & tourism GDP) จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 ในปี 2564 และร้อยละ 31.7 ในปี 2565

ขณะที่การเติบโตของการใช้จ่ายในต่างประเทศในปีนี้จะชะลอตัวกว่าในประเทศ เนื่องจากการจำกัดการเดินทางอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะแซงการใช้จ่ายในประเทศในปี 2565 เนื่องจากจุดหมายปลายทางหลายแห่งได้มีการผ่อนปรนข้อจำกัด และอัตราการฉีดวัคซีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในระดับภูมิภาค ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในทวีปอเมริกาฟื้นตัวก่อนทวีปอื่น ด้วยการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ทางการเดินทางและท่องเที่ยวถึงร้อยละ 36.8 ตามด้วยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่คาดว่า GDP ทางการเดินทางและท่องเที่ยวจะเติบโตที่ร้อยละ 36.3 ตามด้วยทวีปแอฟริกา (ร้อยละ 27.7) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 27.1) และทวีปยุโรป (ร้อยละ 23.9)

ภายในทวีปอเมริกา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศแถบทะเลแคริบเบียนฟื้นตัวก่อนประเทศอื่นด้วยการคาดการณ์ว่า GDP ทางการเดินทางและท่องเที่ยวจะเติบโตร้อยละ 47.3 ตามด้วยอเมริกาเหนือ (ร้อยละ 37.9) และละตินอเมริกา (ร้อยละ 26)

การเติบโตของ GDP ทางการเดินทางและท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นในประเทศแถบแคริบเบียนและตะวันออกกลาง ซึ่งมีการกำหนดการใช้จ่ายในต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการเติบโตของ GDP ทางการเดินทางและท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่การคาดการณ์ด้านการใช้จ่ายในประเทศจะเติบโตได้ดีกว่าการใช้จ่ายในต่างประเทศของภูมิภาคส่วนใหญ่ในปี 2564 แต่มีการคาดว่าการใช้จ่ายในต่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 148.3 ในปี 2565 เนื่องจากคาดว่าจะมีจุดหมายปลายทางเพิ่มอีกหลายแห่งที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง

ทางด้านทวีปยุโรป คาดว่าจะมีการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 30.2) เมื่อเทียบกับการใช้จ่ายในต่างประเทศ (ร้อยละ 19.3) ในปี 2564 ภายในสหภาพยุโรปความแตกต่างระหว่างการใช้จ่ายในประเทศและต่างประเทศที่คาดการณ์ไว้ไม่แตกต่างอย่างเด่นชัดนัก ด้วยการคาดการณ์ของการใช้จ่ายภายในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับการใช้จ่ายในต่างประเทศที่ร้อยละ 17.6

ทั้งนี้ การคาดการณ์ล่าสุดของ WTTC แสดงถึงทิศทางการเติบโตที่สดใสของการใช้จ่ายในต่างประเทศในปี 2565 และในปีต่อ ๆ ไปในอนาคต

ส่วนในระดับประเทศ แม้ว่าประเทศจีนต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่ยืดเยื้อ แต่คาดว่า GDP ทางการเดินทางและท่องเที่ยวจะเติบโตที่ร้อยละ 60.7 ในปี 2564 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าทั้งของสหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 35.6) และสหราชอาณาจักร (ร้อยละ 32.3)

อีกทั้งเป็นที่คาดการณ์เช่นเดียวกับการใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนที่จีนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.9 ตามมาด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.4 ในสหรัฐอเมริกา และร้อยละ 30.5 ในสหราชอาณาจักร

แม้ว่าข้อจำกัดที่ต่อเนื่องจะจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ แต่ความต้องการท่องเที่ยวยังคงอยู่ แม้ว่าปัจจุบันการเดินทางภายในประเทศจะเป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างเต็มรูปแบบจะต้องอาศัยการกลับมาของการเดินทางระหว่างประเทศ