“วิดีโอสตรีมมิ่ง” เดือด “ดิสนีย์” ท้าชน “เน็ตฟลิกซ์”

REUTERS/Mike Blake/File Photo

มีกระแสข่าวต่อเนื่องว่า “แอปเปิล” กำลังจะเข้าสู่โลกธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งเต็มตัว และผลิตคอนเทนต์เหมือนเจ้าอื่น ๆ แม้เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัลระบุว่าแผนดังกล่าวอาจล่าช้า เพราะผู้บริหารกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงในเนื้อหาของบางรายการ จึงต้องการควบคุมเนื้อหาในระดับที่เข้มข้นขึ้น

เดือนที่แล้วเฟซบุ๊กเปิดตัว “เฟซบุ๊ก วอตช์” ฟังก์ชั่นใหม่ที่เป็นอาวุธรบตัวใหม่ของเฟซบุ๊ก

เฟซบุ๊กวอตช์ เป็นหน้ารวมวิดีโอของเฟซบุ๊กที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ตั้งใจสร้างมาชนกับยักษ์ใหญ่อย่างยูทูบ โดยจะแสดงวิดีโอที่มีคนดูเยอะ ๆ รวมถึงวิดีโอที่คนกดถูกใจจำนวนมาก นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจทำแชนเนลวิดีโอ เฟซบุ๊ก ก็จะเสริมเครื่องมือที่เรียกว่า show pages สำหรับสร้างรายการเป็นตอน ๆ โดยเฉพาะด้วย ที่น่าสนใจคือ เฟซบุ๊กเริ่มขยับมาเป็นผู้ผลิตรายการเอง และเป็นสปอนเซอร์ให้ผู้ผลิต

ส่วน “ดิสนีย์” ประกาศว่าในปฏิทินปี 2019 เป็นต้นไป จะปล่อยสตรีมมิ่งของตัวเองออกมาชนยักษ์สตรีมมิ่งทั่วโลก ขณะที่ดิสนีย์เองก็มีคอนเทนต์ในมือเป็นกอบเป็นกำ

น่าสนใจว่านับจากนี้โลกของวิดีโอออนไลน์จะดุเดือดมากแค่ไหนเป็นเรื่องที่น่าติดตาม

“ดิสนีย์” เดินหน้าสตรีมมิ่ง

มีคาดการณ์ว่าสตรีมมิ่งของดิสนีย์น่าจะเปิดตัวช่วงปลายปีหน้า ความน่าสนใจคือ “ภาพยนตร์จักรวาลมาร์เวล” จะถือเป็นแม่เหล็กชิ้นสำคัญของดิสนีย์พร้อมเตรียมจัดเต็มคอนเทนต์ในสตรีมมิ่งของตัวเอง ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ แถมมีข่าวแว่ว ๆ ว่าจะจับมือกับค่ายมาร์เวล ทำซีรีส์ภาคแยกของ “โลกิ” และ “สการ์เลต วิตช์” อีกด้วย

การเข้ามาลุยอุตสาหกรรมออนไลน์วิดีโอ ทำให้ดิสนีย์เตรียมถอนคอนเทนต์ออกจาก “เน็ตฟลิกซ์” สตรีมมิ่งเจ้าดังในปีหน้าทั้งหมด หลังหมดสัญญา

เว็บไซต์ Variety วิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ว่าตัวละครอื่นที่เป็นที่นิยม อาจจะมีซีรีส์เป็นของตัวเองเพื่อสร้างจุดแข็งให้ดิสนีย์สู้กับเน็ตฟลิกซ์

“คอนเทนต์” จุดแข็งเน็ตฟลิกซ์

สำหรับเน็ตฟลิกซ์ถือเป็นสตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมอันดับต้นของโลก ด้วย subscribers กว่า 125 ล้านคนทั่วโลก และตัวเลขเพิ่มขึ้น 2 เท่า ใน 3 ปี

ความสำเร็จของเน็ตฟลิกซ์มาจากการปรับกลยุทธ์หันมาผลิตคอนเทนต์เอง ในชื่อ “เน็ตฟลิกซ์ ออริจินอล” เพราะบริษัทเริ่มแบกรับต้นทุนค่าลิขสิทธิ์หนังจากผู้ผลิตไม่ไหว และหนังบางเรื่องก็ไม่ได้เข้าฉายบนแพลตฟอร์มเน็ตฟลิกซ์อย่างเดียว แต่ลงแพลตฟอร์มคู่แข่งด้วย

เมื่อเน็ตฟลิกซ์หันมาทำคอนเทนต์เองจึงได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น โดยเฉพาะในซีรีส์ ทั้ง “Stranger Things” และ “13 Reasons Why”

แม้ว่าช่วงหลัง ๆ คอนเทนต์ของเน็ตฟลิกซ์มักได้รับคำวิจารณ์ว่าไม่สนุกเท่าเดิม แต่ผู้สันทัดกรณีด้านออนไลน์สตรีมมิ่งยังเชื่อว่าหากเน็ตฟลิกซ์ยังรักษาชื่อในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ และอ่านใจผู้บริโภคได้เหมือนเคย น่าจะไปได้เรื่อย ๆ โลกสตรีมมิ่งแข่งเดือด

นอกจากเน็ตฟลิกซ์ ปัจจุบันมีสตรีมมิ่งอีกหลายเจ้าที่อยู่ในตลาดและมีจุดแข็งต่างกันไป เช่น “อเมซอน ไพรม วิดีโอ”

แพลตฟอร์มดูวิดีโอสำหรับสมาชิกไพรมของ “อเมซอน” โดยมีรายการรวมถึงภาพยนตร์มากมาย แถมใกล้เคียงกับเน็ตฟลิกซ์ และเน้นนำเสนอ original content เหมือนกัน ทั้งนี้จุดแข็งคือมีฐานผู้ชมจำนวนกว่า 80 ล้านคน ที่พ่วงมากับสมาชิกไพรม

“เอชบีโอ นาว” สตรีมมิ่งของค่ายเอชบีโอ ที่แม้จะนำเสนอแต่ภาพยนตร์ รายการ และซีรีส์ที่ทางช่องผลิตเอง และมีค่าสมาชิกสูงกว่าเจ้าอื่น แต่คอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟเข้มข้น ลงทุนสูง และมีฐานผู้ชมของตน โดยเฉพาะจากซีรีส์แห่งยุค “เกม ออฟ โทรนส์

“ฮูลู” สตรีมมิ่งที่เน้นรายการโทรทัศน์เป็นหลัก ไม่เน้นภาพยนตร์ แต่มีซีรีส์แม่เหล็กอยู่หลายตัวคาดการณ์จากจูนิเปอร์ รีเสิร์ชว่า ในปี 2019 จะมีจำนวนผู้ชมในอุตฯวิดีโอสตรีมมิ่งมากถึง 332.2 ล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จากปี 2014 ที่มีผู้ชมเพียง 92.1 ล้านคน

ที่สำคัญปีหน้าระบบโทรทัศน์เคเบิลแบบจ่ายสมาชิก น่าจะได้รับผลกระทบมากขึ้น เพราะโลกสตรีมมิ่งแข่งขันกันหนักทางคอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้า