สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นิตยสารไทม์ ได้ประกาศให้นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ถูกฆาตกรรมในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นบุคคลแห่งปีของไทม์ ประจำปี 2018 เคียงข้างนักข่าวอีกจำนวนหนึ่งภายใต้ชื่อ “The Guardians and the War on Truth” หรือ “ผู้พิทักษ์และสงครามแห่งความจริง”
นิตยสารไทม์ ระบุว่าไทม์ฉบับบุคคลแห่งปีประจำปี 2018 จะมี 4 ปกประกอบไปด้วยจามาล คาช็อกกี คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ผู้ที่ถูกฆาตกรรมจากการเขียนวิพากษ์วิจารณ์มกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- นายกฯ โทรเบรก-ระงับใบลากฤษฎา เตรียมแบ่งงานคลังใหม่
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
มาเรีย เรสซา บรรณาธิการเว็บไซต์ข่าวในฟิลิปปินส์ ที่เป็นที่รู้จักจากงานเขียนวิพากษ์วิจารณ์นโยบายอันรุนแรงของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
วา โลน และ จ่อ โซ อู ผู้สื่อข่าวชาวพม่าของสำนักข่าวรอยเตอร์ ผู้ถูกจับกุมในพม่าขณะกำลังทำข่าวสืบสวนสอบสวนกรณีสังหารหมู่ชาวมุสลิมโรฮีนจา และหนังสือพิมพ์ เดอะแคปพิทอลกาเซ็ตต์ สำนักข่าวในรัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งตกเป็นเป้าของมือปืนที่บุกกราดยิงเข้าไปในห้องข่าว ส่งผลให้มีผู้สื่อข่าวเสียชีวิต 4 ราย และผู้ช่วยเซลส์เสียชีวิต 1 ราย
นิตยสารไทม์ระบุว่า กลุ่มนักข่าวที่ถูกฆ่าและถูกคุมขังดังกล่าวถูกเลือกเนื่องจากการรับความเสี่ยงจากการติดตามค้นหาความจริง เพื่อการค้นหาความจริงที่ขาดไม่ได้ที่แม้จะไม่สมบูรณ์แต่ก็เป็นศูนย์กลางของวาทกรรมพลเมือง เพื่อให้มีการพูดถึงและมีการเปิดเผย
นอกจากนี้นิตยสารยังระบุด้วยว่า นักข่าวทั้ง 4 คนและหนังสือพิมพ์ 1 ฉบับเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง นั่นก็คือการเป็นตัวแทนของการต่อสู้ของนักข่าวและสำนักข่าวอื่นๆอีกนับไม่ถ้วนทั่วโลก พร้อมทั้งระบุว่านับถึงวันที่ 10 ธันวาคม มีนักข่าวอย่างน้อย 52 รายถูกฆาตกรรมในปี 2018 ผู้ที่เสี่ยงชีวิตเล่าเรื่องราวในยุคของพวกเรา
ทั้งนี้นิตยสารไทม์จัดให้มีฉบับบุคคลแห่งปีมาตั้งแต่ปี 1927 โดยเมื่อปี 2017 บุคคลแห่งปีของไทม์ตกเป็นของ กลุ่มบุคคล “ผู้ทำลายความเงียบ” ที่ลุกขึ้นมาเปิดเผยประสบการถูกคุกคามทางเพศจนเกิดเป็นกระแส #MeToo ขึ้น ขณะที่ในปี 2016 บุคคลแห่งปีเป็นของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้คว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ที่มา มติชนออนไลน์
