นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ระบุว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะเปิดเกาะคริสต์มาส อันอื้อฉาวเพื่อใช้คุมขังผู้อพยพทางเรือที่มุ่งหน้าไปยังชายฝรั่งประเทศออสเตรเลียอีกครั้ง หลังพรรครัฐบาลพ่ายแพ้ในการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับกฎหมายที่จะเปิดทางให้แพทย์สามารถประเมินให้นำตัวผู้อพยพเข้ามารักษาตัวในประเทศออสเตรเลียได้
โดยมอร์ริสัน ระบุว่า รัฐบาลจะเปิดศูนย์คุมตัวผู้อพยพบนเกาะคริสต์มาสขึ้นอีกครั้งเพื่อรับมือกับการอพยพเข้ามาและการส่งตัวต่อ โดยระบุว่าทั้งสองกรณีนั้นมีโอกาศเกิดขึ้นมาก หลังรัฐสภาผ่านกำหมายดังกล่าว ซึ่งมอร์ริสัน ระบุว่าจะทำให้นโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มข้นนั้นอ่อนแอลง และกระตุ้นกลุ่มลักลอบนำพาผู้อพยพมีมากขึ้น
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2013 ออสเตรเลียส่งผู้อพยพลี้ภัยที่เดินทางเข้าวประเทศออสเตรเลียทางเรือไปยังศูนย์ควบคุมตัวบนเกาะมานัส ในปาปัวนิวกินี และเกาะนาอูรู โดยก่อนหน้านั้นรัฐบาลเคยส่งผู้อพยพไปยังศูนย์ควบคุมตัวบนเกาะคริสต์มาส เกาะที่ห่างจากชายฝั่งออสเตรเลียไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ราว 2,600 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งตอนใต้ของประเทศออสเตรเลียราว 300 กิโลเมตร
ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการควบคุมตัวผู้อพยพดังกล่าวว่าเป็นสิ่ง “ไร้มนุษยธรรม” ทว่ารัฐบาลออสเตรเลียยังคงยืนยันว่าสิ่งที่ทำเป็นการป้องกันกลุ่มแก๊งค้ามนุษย์และเป็นการช่วยชีวิตคนที่ต้องเสียงชีวิตกลางทะเล
ทั้งนี้การเปิดเผยของมอร์ริสัน ที่จะเปิดศูนย์กักกันผู้อพยพแห่งใหม่นั้น ถูกมองว่าเป็นการเล่นการเมืองก่อนหน้าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เนื่องจากกฎหมายใหม่ดังกล่าวนั้นจะนับเฉพาะผู้อพยพที่อยู่ที่ศูนย์กักกันบนเกาะ เกาะมานัส และเกาะนาอูรู เท่านั้น
ที่มา มติชนออนไลน์