ต่างประเทศ

ผู้ร่วมก่อตั้ง “Map of the Money” ย้ำสตาร์ตอัพคือคีย์สำคัญธุรกิจใหญ่ ต้องฉลาดหา “พาร์ตเนอร์”

ในระหว่างงานสัมมนา “Corporate Innovation Summit 2019” ณ เซ็นทาราแกรนด์แอนด์บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ ในวันที่ 29 มี.ค.นี้

นาย Arnaud Bonzom ผู้ร่วมก่อตั้ง Map of the Money แชร์มุมมองเกี่ยวกับ “How do the world’s biggest companies deal with the start up revolution” โดยเน้นกล่าวถึงความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างบริษัทใหญ่และสตาร์ตอัพ

โดยกล่าวว่า ในปัจจุบันทั่วโลก รวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชีย เรียกได้ว่ามีจำนวนบริษัทสตาร์ตอัพมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้ผมมองว่า บริษัทใหญ่ๆ โดยเฉพาะที่กำลังสนใจเข้ามาลงทุน หรือร่วมธุรกิจในเอเชีย ต้องปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ และยกเครื่องทางความคิดเพื่อจะสามารถทำธุรกิจกับบริษัทเล็กๆ ได้ง่ายขึ้น ผมมองว่ามันเป็นแนวทางที่ win-win ทั้งคู่

ทุกๆ บริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนแสวงหาที่จะประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งสิ้น ทางออกที่ดีที่สุดของนักธุรกิจ ก็คือ “ต้องกล้าเสี่ยง”

บางทีความร่วมมือกับเหล่าสตาร์ตอัพก็อาจจะทำให้เราขยับธุรกิจได้ไวขึ้น เพราะระดับความสัมพันธ์กับทุกๆระดับ ตั้งแต่รัฐบาล ผู้บริหารระดับสูง จนไปถึงคนท้องถิ่น ก็จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจสูงมาก เพื่อความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต

นาย Arnaud กล่าวว่า การขยายธุรกิจในเวลานี้ วิธีที่ดีที่สุดยังคงเป็นการหา “พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ” นอกจากจะใช้เงินลงทุนที่ต่ำ ยังมีความเสี่ยงต่ำด้วย

“Local innovation is possible, not everthing is happening at the headquarters” นาย Arnaud กล่าวถึงนวัตกรรมของธุรกิจขนาดเล็กอาจมีความเป็นไปได้สูงที่จะขับเคลื่อนบริษัท บางทีกลยุทธ์เด็ดๆ อาจไม่ได้เกิดจากคลังสมองในบริษัทใหญ่ หรือสำนักงานใหญ่เท่านั้น โดยนาย Arnaud กล่าวอีกว่า บริษัทใหญ่ควรต้องปรับ mindset เพราะความสำเร็จในวิธีแบบเดิมๆ หรือกลยุทธ์เดิมๆ ที่ใช้เมื่อหลายสิบปีก่อน อาจจะไม่สามารถนำมาใช้กับโลกในยุคปัจจุบันได้

ทั้งยังยกตัวอย่างในหลายบริษัทที่เกิดจาก แนวคิดเล็กๆ ในประเทศของตัวเอง ก่อนที่จะขยับขยายจนกลายเป็น อินเทอร์เนชั่นแนล แบรนด์ เช่นในตอนนี้ ตัวอย่างเช่น Microsoft, Dtac และ Allianz

นาย Arnaud กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาคธุรกิจต้องประเมินเรื่องนวัตกรรมให้มากกว่าการมุ่งพัฒนาสินค้า หรือใช้เทคโนโลยีมาผสมผสานกับบริษัทเท่านั้น แต่นวัตกรรมที่ดีและเหมาะสมกับบริษัทของเราจะสามารถจัดการและบริหารได้ทั้งระบบของการทำงาน และต้องอย่าลืมที่จะพัฒนาไอเดียอยู่เสมอ เพราะหากพัฒนาสินค้าที่ไม่สอดรับกับดีมานด์โลก นั่นถือเป็นการลงทุนที่ไม่ฉลาดนัก ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีแค่สตาร์ตอัพที่ต้องปิดตัวลงหลายราย แต่บริษัทใหญ่ๆ ก็ประสบปัญหาเดียวกัน