“แอปเปิล” ปรับกลยุทธ์ บุก “สตรีมมิ่ง” แข่งเจ้าตลาด

ขณะที่ยอดขายไอโฟนกำลังอยู่ในทิศทางขาลง ล่าสุด “แอปเปิล” หันมาเปิดเกมรุกธุรกิจใหม่เข้าสู่ตลาดคอนเทนต์ และ “วิดีโอสตรีมมิ่ง” เต็มตัวด้วยการเปิดบริการ “แอปเปิล ทีวี พลัส” (Apple TV+) “แอปเปิล ทีวี ชาแนลส์” (Apple TV Channels) “แอปเปิล นิวส์ พลัส” (Apple News+) และ “แอปเปิล อาร์เคด” (Apple Arcade) เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “ทิม คุก” ซีอีโอของแอปเปิล อิงค์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการทำงานร่วมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมากมาย มาร่วมในการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ อาทิ สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับชื่อดังของอเมริกา และโอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชั้นนำของอเมริกา โดยรายการต่าง ๆ จะสามารถรับชมได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น “ทีวี” บนอุปกรณ์ของแอปเปิล และช่องทางสตรีมมิ่งอื่น ๆ เช่น “เอชบีโอ”, “สตาร์ซ” และ “โชว์ไทม์” เป็นต้น

นอกจากนี้ แอปเปิลยังประกาศความร่วมมือกับ “โกลด์แมน แซกส์” และ “มาสเตอร์การ์ด” เปิดตัว “Apple Card” บัตรเครดิตทั้งแบบแอปบนมือถือและบัตรจริงที่ไม่มีค่าธรรมเนียม รวมถึงรับเครดิตเงินคืน 2% ในทุก ๆ การใช้จ่ายผ่านแอป หากซื้อสินค้าแอปเปิลจะได้รับเครดิตเงินคืนเป็น 3%

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าแอปเปิลอาจยังไม่สามารถสู้ศึกกับคู่แข่งในสมรภูมิสตรีมมิ่งที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก “เดวิด โกลด์แมน” นักวิเคราะห์ของ “ซีเอ็นเอ็น บิสซิเนส” มองว่า คู่แข่งสำคัญที่แอปเปิลจะต้องเผชิญในธุรกิจสตรีมมิ่ง คือ “เน็ตฟลิกซ์” ซึ่งมียอดผู้ใช้งานมากถึง 139 ล้านคน ใน 190 ประเทศทั่วโลก ทั้งยังคงเติบโตต่อเนื่อง และผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 9 ล้านคนในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา

ขณะที่ “อเมซอน ไพรม วิดีโอ” , “ฮูลู” ที่เป็นคู่แข่งสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึง “วอร์เนอร์มีเดีย” และ “ดิสนีย์” ที่กระโดดเข้ามาแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งด้วยเช่นกัน

“แดน อีฟส์” นักวิเคราะห์จากเวดบุช ที่ปรึกษาการเงินในลอสแองเจลีส ระบุว่า แอปเปิลยังมีโอกาสในตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งได้ เพราะพฤติกรรมของผู้ใช้งานทั่วโลกยังนิยมใช้บริการหลากหลายช่องทาง เชื่อว่าบริการสตรีมมิ่งของแอปเปิลน่าจะสามารถมีผู้ใช้งานได้ถึง 100 ล้านคน ภายใน 3-5 ปี อย่างไรก็ตาม ธุรกิจใหม่ของแอปเปิลคงไม่สามารถทดแทนรายได้จากยอดขายไอโฟนที่ลดลงได้

ขณะที่ “คอลิน กิลลิส” นักวิเคราะห์จาก Chatham Road Partners แสดงความเห็นว่า แอปเปิลอาจเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ช้าเกินไป เพราะตลาดอเมริกันเริ่มอิ่มตัวจากคอนเทนต์มากมายที่ถูกปล่อยออกมาจากทั้งเน็ตฟลิกซ์ และอเมซอน รวมทั้งศักยภาพของแอปเปิลอาจไม่เพียงพอที่จะโค่นเน็ตฟลิกซ์ได้ โดยในที่สุดแล้วแอปเปิลจะยังคงเป็นเพียงผู้ผลิตไอโฟนเช่นเคย

รายงานข่าวระบุว่า ในปี 2018 แอปเปิลสามารถทำรายได้จากยอดขายไอโฟนได้ 1.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในไตรมาส 4/2018 ยอดขายไอโฟนลดลงไป 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2019 แอปเปิลอาจจะต้องสูญเสียรายได้จากยอดขายไอโฟนที่ลดลงถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ