ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โดยได้ตั้งเป้าหมายต้องการยกระดับประเทศให้กลายเป็น “สังคมไร้เงินสด” ภายในปี 2020 ทั่วประเทศอย่างพร้อมเพียงกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่เพียงในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น แต่หมายถึงรวมพื้นที่ทุกแห่งในชนบทด้วย
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ส รายงานว่า ความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศของจีน เพื่อก้าวขึ้นสู่ประเทศที่ใช้ระบบ “ดิจิทัลเพย์เมนต์” หรือ ระบบการชำระเงินออนไลน์ 100% แม้ว่าจะมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับการปรับเปลี่ยนไปใช้จ่ายแบบดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยบางเมืองใหญ่ๆ มีประชาชนที่เลือกใช้จ่ายในระบบออนไลน์เกือบ 90% หรือมากถึง 95% แล้วในปัจจุบัน
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- ลุยตรวจย่านดัง กรุงเทพ-ปริมณฑล เอาผิดต่างชาติแย่งงานคนไทย
ทว่า ในบางเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทของจีน อย่างเช่น เมืองหวายอัน ในมณฑลเจียงซู กลับมีการใช้จ่ายเงินแบบดั้งเดิม โดยมีการจ่ายเงินด้วยวิธีแบบดั้งเดิม มากกว่าจ่ายแบบดิจิทัล
ทั้งนี้ “ศูนย์นับเงินสด” สำหรับบริษัทขนส่งสาธารณะ ในเมืองหวานอัน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน โดยภาพที่เห็นตรงหน้าส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย ที่กำลังนั่งนับเงินสดกองโตกันอย่างขะมักเขม้น ทั้งแบบธนบัตรและเหรียญ
ก่อนหน้านี้ เคยมีรายงานข่าวของ “New China TV” ของจีน ที่ระบุว่า หญิงชาวจีนไม่จำกัดอายุยังเป็นที่ต้องการสำหรับตำแหน่งงาน “พนักงานนับเงินสด” โดยในแต่ละวันพวกเขาจะนับเงินสดมากถึง 1 ล้านแบงค์ ยังไม่รวมเหรียญเงินหยวนมากมายที่กองกันเป็นภูเขากองโตอีกด้วย
