นายกฯ ปากีสถาน ประณามการกระทำอินเดียไม่ต่างจาก “นาซี”

Sputnik/Alexei Druzhinin/Kremlin via REUTERS/File Photo

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานยังส่อแววบานปลาย เริ่มตั้งแต่ที่สัปดาห์ก่อน ที่รัฐบาลอินเดียสั่งเพิกถอนสิทธิปกครองตนเอง และสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ได้ให้แก่ “รัฐจัมมูและแคชเมียร์” ซึ่งอยู่ในรัฐธรรมนูญมาตรา 370 ของอินเดีย โดยอ้างเหตุผลเพื่อต้องการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างชนชาติในพื้นที่แคชเมียร์

ขณะที่ความเคลื่อนไหวจากฝั่ง “ปากีสถาน” เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา คือ รัฐบาลมีคำสั่งให้ระงับการให้บริการ “รถบัส” ระหว่าง “กรุงนิวเดลี-ลาฮอร์” ซึ่งเรียกกันว่า “รถบัสมิตรภาพ” โดยเป็นการตัดขาดเส้นทางเชื่อมต่อทางบกสุดท้ายระหว่างสองประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการระงับการให้บริการ “เส้นทางรถไฟ” เชื่อมสองประเทศแล้ว

และล่าสุด ซีเอ็นเอ็น รายงานวันนี้ (12 ส.ค.) นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีของปากีสถาน กล่าวเปรียบเทียบการกระทำของอินเดียในแคชเมียร์ว่า เปรียบเสมือนกับ “ลัทธินาซี” ของนายอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บุคคลอันเลื่องลือว่าเป็น นายกรัฐมนตรีที่มีแนวคิดชาตินิยมแบบสุดโต่ง ผู้ที่จุดไฟแนวคิดชาตินิยมจนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมบันลือโลก “การสังหารหมู่ชาวยิว” มากถึง 6 ล้านคน

โดยกล่าวว่า กลุ่มคนชาวแคชเมียร์เป็นกลุ่มชนชาติที่อ่อนไหวมาก การที่กองทัพอินเดียนับหมื่นๆ คน มาประจำการที่ดินแดนข้อพิพาทระหว่างปากีสถาน เป็นการแสดงออกถึงการข่มขู่และไม่ให้เกียรติ ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า มีการตัดขาดการสื่อสาร ระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันเหตุโจมตีที่ไม่อาจควบคุมได้ในฝั่งของอินเดีย

นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมตัว “ผู้สื่อข่าว” สำหรับการรายงานเกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่บริเวณแคชเมียร์ โดยทางอินเดียอ้างว่าเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิโดยไม่จำเป็น และสามารถควบคุมได้