สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 ก.ค. 2020) ระบุว่า “เอ็นพีซี อินเตอร์เนชันแนล” บริษัทผู้รับสิทธิการบริหารแฟรนไชส์ร้านอาหารแบรนด์ “พิซซ่าฮัท” มากกว่า 1,200 แห่ง และร้านอาหารแบรนด์ “เวนดี้” อีกกว่า 400 แห่งในสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นขอคุ้มครองทรัพย์ตามกฎหมายการล้มละลายมาตรา 11
โดยเอกสารของ “เอ็นพีซี” ที่ยื่นต่อศาลล้มละลายเขตเท๊กซัสตอนใต้ ระบุว่า บริษัทได้เผชิญกับความยากลำบากในการทำธุรกิจตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาระหนี้สินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงต้นทุนค่าแรงและวัตถุดิบอาหารที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้มากตรการล็อคดาวน์เพื่อจำกัดการระบาดของโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยซ้ำเติมการดำเนินงานอย่างมาก
- Apple เปิดตัว iPad Air-Pro รุ่นใหม่ 7 พฤษภาคมนี้
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามตามกฎหมายการล้มละลายมาตรา 11 ทาง “เอ็นพีซี” ยังคงดำเนินกิจการร้านอาหารทั้งหมดของบริษัท ควบคู่ไปกับการเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้และการบริหารงาน โดย “จอห์น เว๊บเบอร์” ผู้บริหารของ “เอ็นพีซี” ซึ่งกำกับดูแลเชนร้านอาหาร “พิซซ่าฮัท” กล่าวว่า บริษัทจะใช้กลไกลตามมาตร 11 ในการปรับโครงสร้างการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศ
ขณะที่ “ยัม! แบรนด์ส” บริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ร้าน “พิซซ่าฮัท” ออกประกาศสนับสนุน “เอ็นพีซี” พร้อมระบุว่าการเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างตามกฎหมายการล้มละลายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณภาวะของเชนร้านพิซซ่าฮัททั้งหมดในระยะยาว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีร้านแบรนด์ “พิซซ่าฮัท” ทั้งหมด 7,100 แห่งและร้านอาหารร้านแบรนด์ “เวนดี้” 6,500 แห่งในสหรัฐอเมริกา