รวมมาตรการสู้ไวรัส ช่วงเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่รอบโลก

ภาพ : AP/Alberto Pezzali

ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต่างพยายามหามาตรการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

โดยการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษที่แพร่ระบาดรวดเร็ว ยิ่งทำให้หลายประเทศเป็นกังวลมากขึ้น พร้อมกับยกระดับมาตรการควบคุมโรคระบาดในช่วงเทศกาล แต่ขณะเดียวกันบางประเทศกลับใช้โอกาสช่วงวันหยุดผ่อนปรนมาตรการเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

คริสต์มาสอังกฤษล่ม-ไวรัสกลายพันธุ์ระบาด

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ “อังกฤษ” มีแผนจะผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ แต่ต้องล้มเลิกเพราะพบว่าเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่ทำให้มีการแพร่ระบาดรวดเร็วขึ้นในประเทศ

ทำให้นายกรัฐมนตรี “บอริส จอห์นสัน” ประกาศล็อกดาวน์ 4 ประเทศในสหราชอาณาจักร ได้แก่ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ และสั่งไม่ให้แต่ละครัวเรือนที่อยู่ในกรุงลอนดอนและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศมีการพบปะสังสรรค์กัน ถึงแม้จะใช้พื้นที่ในบ้าน

นอกจากนี้ปัญหาของไวรัสพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาด ได้ส่งผลให้หลายประเทศปิดพรมแดนห้ามการเดินทางมาจากสหราชอาณาจักรอย่างเร่งด่วน

บราซิลงดมาตรการลดโรค

ขณะที่ “บราซิล” แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 หนักที่สุด และตอนนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูง แต่ช่วงเทศกาลปีนี้ในบราซิลดูจะเป็นปกติเหมือนทุก ๆ ปี

ตามชายหาดและร้านอาหารหลายแห่งในเมืองริโอ เด จาเนโร มีผู้คนหนาแน่นตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลไม่มีมาตรการจำกัดการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส มีเพียงแต่ยกเลิกการแสดงดอกไม้ไฟคืนวันที่ 31 ธ.ค. ใน 3 เมืองสำคัญ คือ เซาเปาโล, ริโอ เด จาเนโร, และซัลวาดอร์

ส่วนผู้ว่าการเมืองเซาเปาโลกำหนดให้เฉพาะบริการที่จำเป็นสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่า เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา

แอฟริกาใต้ควบคุมการขายเหล้า

ประเทศ “แอฟริกาใต้” ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ชายหาดและการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยผู้ประกอบการสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะวันจันทร์-พฤหัสบดี ส่วนชายหาดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจะปิดให้เข้าตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟไปจนถึงวันปีใหม่

นอกจากนี้รัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเฉลิมฉลองในสถานที่แออัด แต่ยังคงอนุญาตให้มีการรวมตัวกันได้ในที่ร่มไม่เกิน 100 คน และกลางแจ้งไม่เกิน 250 คน

เลบานอนเปิดประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ

“เลบานอน” ต่างกับหลายประเทศ โดยมีการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาล โดยอนุญาตให้ชาวเลบานอนหลายหมื่นคนที่ปักหลักทำงานในต่างประเทศเดินทางกลับบ้านเกิดช่วงวันหยุด เพราะต้องการดึงดูดเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยของเลบานอนได้อนุญาตให้ไนท์คลับกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง แต่ก็ห้ามไม่ให้มีการเต้นรำ

โดยหลังเหตุระเบิดครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ท่าเรือของเบรุต ทำให้โรงพยาบาล 3 แห่งได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ภาคสาธารณสุขของเลบานอนเผชิญความท้าทายในการรับมือกับโรคระบาด ดังนั้นการตัดสินใจกระตุ้นการท่องเที่ยวเช่นนี้ของภาครัฐยิ่งสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้น

กฎสีแดง-สีส้ม สัญลักษณ์เคอร์ฟิวในอิตาลี

หนังสือพิมพ์หลายสำนักใน “อิตาลี” ตีพิมพ์ภาพกราฟิกสีที่คล้ายกับบอร์ดเกม ซึ่งมีรายละเอียดข้อกำหนดต่าง ๆ ในการลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสในช่วงเทศกาลวันหยุด เพื่อดึงความสนใจให้คนติดตาม โดยภาครัฐได้ประกาศห้ามการเดินทางระหว่างภูมิภาคเป็นเวลา 16 วัน และกำหนดเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00 น.

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24-27 ธ.ค. รัฐบาลจะเริ่มใช้กฎ “สีแดง” ร้านค้าทั้งหมดต้องปิด ยกเว้นร้านขายอาหาร ร้านขายยา และร้านทำผม รวมทั้งจำกัดจำนวนคนในการไปเยี่ยมครัวเรือนอื่น ต้องไม่เกิน 2 คน และสามารถพาไปด้วยอีกหนึ่งคนได้ถ้าอายุไม่เกิน 14 ปี ส่วนร้านอาหารและคาเฟ่ไม่สามารถเปิดให้รับประทานอาหารในร้าน แต่อนุญาตให้มีขายแบบซื้อกลับบ้านและมีบริการจัดส่ง

ตั้งแต่วันที่ 28-30 ธ.ค. จะปรับเป็นกฎ “สีส้ม” โดยร้านค้าที่ไม่จำเป็น (non-essential shops) สามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง แต่ยังไม่อนุญาตให้มีการรับประทานอาหารที่ร้าน

จากนั้นจะกลับมาใช้กฎ “สีแดง” อีกครั้งในวันที่ 31 ธ.ค. – 3 ม.ค. แล้วไปเป็นกฎ “สีส้ม” ในวันที่ 4 ม.ค. และเป็นกฏ “สีแดง” อีกครั้งในวันที่ 5-6 ม.ค. ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ Epiphany (วันฉลองการเสด็จมาปรากฎของพระเยซูคริสต์)

เกาหลีใต้สั่งปิดจุดท่องเที่ยว

ประเทศ “เกาหลีใต้” ห้ามไม่ให้มีการพบปะสังสรรค์ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และหากร้านอาหารฝ่าฝืนให้บริการกลุ่มคนเกินจำนวนที่กำหนด จะถูกปรับสูงถึง 3 ล้านวอน (2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

นอกจากนั้นภาครัฐได้สั่งปิดจุดท่องเที่ยวตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟจนถึงวันที่ 3 ม.ค. ส่วนอุทยานแห่งชาติและสถานที่ท่องเที่ยวตามชายฝั่ง ที่เป็นจุดที่คนเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันปีใหม่จะปิดให้บริการ เช่นเดียวกับโบสถ์ สถานที่เล่นสกี และลานสเก็ตน้ำแข็งก็จะปิด

สหรัฐฯเสนอไม่ให้มีการเดินทางข้ามประเทศ

หน่วยงานของรัฐบาลกลาง “สหรัฐอเมริกา” เสนอห้ามไม่ให้มีการเดินทางระหว่างประเทศในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทาง และให้สิทธิแต่ละรัฐตัดสินใจกำหนดมาตรการเอง

โดยทริปเปิ้ลเอ (AAA – American Automobile Association, Inc.) หรือสมาคมยานยนต์อเมริกันที่ให้ความช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่า ชาวอเมริกันเกือบ 85 ล้านคนจะเดินทางในช่วงวันหยุดนี้ อย่างไรก็ตามยังเป็นจำนวนที่น้อยกว่าปีที่แล้ว 29%