ราคาทองคำดิ่ง ใกล้หลุด 1,700 ดอลลาร์ หลังบอนด์ยีลด์ขึ้น-ดอลลาร์แข็งค่า

Photo by DAVID GRAY / AFP

ราคาทองคำต่างประเทศร่วงหนัก 1,726.31 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เกิดแรงเทขายทองคำ

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ราคาทองคำโลกปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.พ.) ปรับลดลงต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เมื่อเดือน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยมาอยู่ที่ 1.404% เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดแรงเทขายทองคำอย่างหนัก

ส่งผลราคาทองคำต่างประเทศ (Gold Spot) ปิดตลาดวันศุกร์อยู่ที่ 1,726.31 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.5% หลังจากลงไปแตะระดับ 1,716.85 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020

ขณะที่ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลง 2.6% อยู่ที่ 1,728.80 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ราคาโลหะอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์นี้เช่นกัน อย่างโลหะพาลาเดียม ที่ราคาลดลง 3.3% เหลือ 2,321.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแพลทินัมที่ลดลง 2.8% เหลือ 1,182.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

“บาร์ท มาเลก” นักวิเคราะห์กลยุทธ์บริษัททีดีซีเคียวริตี้ ระบุว่า จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) รัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี บวกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ทำให้มูลค่าทองร่วงลงมาก

“เครก เออร์ลาม” นักวิเคราะห์บริษัทโบรเกอร์โออันดา (Oanda) ระบุว่า ทองคำกลับมาเข้าขั้นวิกฤตอีกครั้ง และแนวโน้มในอนาคตยังคงไม่ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี “บอบ เฮเบอร์กอร์น” นักวิเคราะห์ตลาดบริษัทอาร์เจโอ ฟิวเจอรส์ ระบุว่า ถึงแม้ตัวเลขจะน่าเป็นห่วง แต่แพ็กเกจเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลสหรัฐ เมื่อผ่านสภาคองเกรส และส่งถึงประชาชน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังต่ำ จะเข้ามาช่วยประคองราคาทองคำในอนาคตได้