เหตุการณ์เรือ “เอเวอร์ กิฟเวน” ซึ่งมีความยาว 400 เมตร เสียหลักเกยตลิ่งขวางคลองสุเอซ ทำให้เรือขนส่งสัตว์มีชีวิต 16 ลำไม่สามารถเดินทางได้ และอาจทำให้สัตว์ถึง 200,000 ตัว เสียชีวิตก่อนถึงจุดหมาย
วันที่ 30 มีนาคม 2564 สำนักข่าวอียู ออปเซอร์เวอร์รายงานว่า เหตุการณ์เรือ “เอเวอร์ กิฟเวน” เสียหลักเกยตลิ่งขวางคลองสุเอซ อาจทำให้สัตว์ถึง 200,000 ตัวเสียชีวิตก่อนถึงจุดหมาย
“แกเบรียล พอนน์” ประธานเอ็นจีโอ “แอนิมอลส์ อินเทอร์แนชั่นแนล” ของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ อาจเป็นหายนะการสูญเสียสัตว์ครั้งใหญ่ที่สุดผ่านเส้นทางการเดินเรือ ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ตอนนี้มีเรือ 16 ลำที่ลำเลียงสัตว์มีชีวิตจากอียูเพื่อเดินทางผ่านคลองสุเอซ แต่ถูกเรือเอเวอร์ กิฟเวน ขวางการเดินทาง จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางผ่านไปได้
ทั้งนี้ แม้จะกลับมาเดินทางภายในคลองได้ตามปกติแล้ว แต่สัตว์มีชีวิตบนเรืออาจขาดน้ำ และอาหาร จนเสียชีวิตก่อนถึงจุดหมายโรงฆ่าสัตว์
โดยสัตว์ 130,000 จาก 200,000 ตัว มาจากประเทศโรมาเนีย ขณะเดียวกันเรือ 6 จาก 11 ลำที่บรรทุกสัตว์มีชีวิตจากแถบยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต หลังจากต้องถึงท่าเรือที่อ่าวเปอร์เซียตั้งแต่ 4 วันที่แล้ว แต่ยังคงเดินทางผ่านคลองไม่ได้
ตามกฏหมายของอียู เรือที่บรรทุกสัตว์มีชีวิตต้องบรรทุกอาหารสำรองอย่างน้อยเพิ่มอีก 25% เกินกว่าที่วางแผนไว้ เผื่อเกิดความล่าช้าในการขนส่ง แต่ปกติมักจะไม่เกิดขึ้น และหากสำรองอาหารไว้ตามกำหนด ในสถานการณ์นี้อาหารก็ยังคงไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของสัตว์อยู่ดี
เรือ “เอเวอร์ กิฟเวน” ของบริษัท “เอเวอร์กรีน” (Evergreen) ซึ่งมีความยาว 400 เมตร เสียหลักเกยตลิ่งขวางคลองสุเอซ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 และได้ขัดขวางเส้นทางเดินเรือที่สำคัญระหว่างเอเชียและยุโรป ก่อนที่จะนำเรือออกไปได้เมื่อวานนี้ (29 มี.ค.)