ประชาชนอินเดียส่วนใหญ่ เริ่มหยุดสวมใส่หน้ากากอนามัย และไม่มีการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ประกอบกับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว ทั้งหมดนี้อาจเป็นผลให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งกระฉูดอีกครั้ง
วันที่ 5 เมษายน 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประเทศอินเดียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 103,558 คนเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา และเป็นเพียงประเทศที่สองของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกินแสนรายภายในวันเดียว
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
อินเดียมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 12 เท่า หลังจากอัตราการแพร่ระบาดของโลกอยู่ในระดับต่ำสุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อินเดียมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มมากขึ้นที่สุดในโลก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนระบุว่า หลังจากทางการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโรคต่าง ๆ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ หยุดสวมใส่หน้ากากอนามัย และไม่มีการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย
ประกอบกับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว ทั้งหมดนี้อาจเป็นผลให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งกระฉูดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน รัฐมหาราษฏระ รัฐที่รวยที่สุดในประเทศอินเดีย เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) มียอดผู้ติดเชื้อมากถึง 57,074 คน ซึ่งมากที่สุดในประเทศ และทำให้โรงพยาบาลภายในรัฐแทบจะรองรับผู้ป่วยไม่ไหว
“ซูบาช ซาลุนเค” อดีตเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งให้คำปรึกษาต่อรัฐมหาราษฏระในกลยุทธ์ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ระบุว่า อัตราผู้ติดเชื้อจะยังคงเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า
ทั้งนี้ หนึ่งในวิธีที่สามารถลดอัตราแพร่ระบาดของโรคภายในรัฐได้ คือการฉีดวัคซีนโควิด-19 กับผู้ใหญ่ที่อาศัยภายในเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่เมืองมุมไบ ปูเน และ นาศิก
“ถ้าหากเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่ตอนนี้ ภายในเดือนเมษายน จะมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง” ซาลุนเคกล่าว
ตอนนี้อินเดียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 12.6 ล้านคน เป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อรองลงมาจากสหรัฐและบราซิล โดยมีผู้เสียชีวิต 165,101 คน