WHO ยืนยัน โควิดสายพันธุ์อินเดีย “น่าเป็นห่วง”

REUTERS/Niharika Kulkarni

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่ถูกค้นพบครั้งแรกที่อินเดีย เป็น “สายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง” หมายความว่า มีอัตราการระบาดที่รวดเร็ว รวมถึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิต มากกว่าเชื้อโควิดเดิม

วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “B.1.617” ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย เป็น “สายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง” (variant of concern) หมายความว่า เป็นสายพันธุ์ที่มีอัตราการระบาดที่รวดเร็ว รวมถึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิต มากกว่าเชื้อโควิดเดิม รวมทั้งมีความเสี่ยงที่วัคซีนหรือการรักษาในปัจจุบัน จะไม่มีประสิทธิภาพพอต่อการต้านเชื้อไวรัสนี้

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกได้จัดประเภทโควิด “สายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง” ทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ “B.1.1.7” ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่สหราชอาณาจักร (ยูเค) สายพันธุ์ “B.1.351” ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกาใต้ และสายพันธุ์ “P.1” ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศบราซิล

ทั้งนี้ แท้จริงแล้วการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ไปเป็นสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลก ได้เข้ามาติดตามอย่างใกล้ชิด โดยอีก 6 สายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกได้จัดว่าเป็น “สายพันธุ์ที่น่าจับตามอง” (variant of interest) ได้แก่ B.1525 ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่สหราชอาณาจักร และประเทศไนจีเรีย

นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ B.1427/B.1429 ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา, P.2 ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่บราซิล, P.3 ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์, S477N ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา และ B.1.616 ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ฝรั่งเศส 

Advertisment

ขณะเดียวกัน วันนี้ (11 พ.ค.) อินเดียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 329,942 คน และผู้เสียชีวิตอีก 3,876 คน ภายใน 1 วัน โดยตอนนี้ประเทศพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 22.99 ล้านคน และผู้เสียชีวิตมากกว่า 249,992 คน ซึ่งอัตราผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ยังคงทำให้สถานพยาบาลยังคงขาดแคลนถังออกซิเจน และเชื้อเริ่มระบาดหนักตามเมือง และหมู่บ้านในชนบทของประเทศแล้ว