ต่างประเทศ

“บิตคอยน์” รถไฟเหาะ ของนักลงทุนทั่วโลก

บิตคอยน์

มูลค่า “บิตคอยน์” ร่วงลงต่ำกว่า 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งกระแสการลงทุนที่ร้อนแรงทำให้มูลค่าบิตคอยน์ รวมถึงคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นปี

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองตัวเลข 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นแนวรับสำคัญ สำหรับการจับเทรนด์ลงทุนของบิตคอยน์ รวมถึงตลาดคริปโทฯว่ากำลัง “ดิ่ง” ลงหรือไม่

หลังจากกลางเดือน เม.ย. มูลค่าบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุด 64,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา นักลงทุนคริปโทฯก็ได้นั่ง “รถไฟเหาะ” เผชิญกับมูลค่าที่ผันผวนอย่างหนัก โดยมูลค่าลดฮวบ หลัง “อีลอน มัสก์” หนึ่งในบุคคลหลักที่ปลุกกระแสคริปโทเคอร์เรนซี เปลี่ยนท่าทีออกมาแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนบิตคอยน์ เนื่องจากเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้พลังงานสูงมาก แต่หลังจากนั้นมัสก์ ก็ประกาศว่าอาจจะให้นำบิตคอยน์มาใช้ซื้อรถเทสลาได้ มูลค่าก็ดีดกลับมา

อีกปัจจัยสำคัญที่เข้ามาทำให้มูลค่าคริปโทฯลดฮวบ คือการที่รัฐบาลหลายประเทศเร่งควบคุมคริปโทฯ โดยมองว่าเป็นภัยต่อระบบการเงินของประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่ได้สั่งห้ามสถาบันการเงิน รวมทั้งแพลตฟอร์มชำระเงิน ไม่ให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโทฯรวมถึงกำชับสถาบันการเงิน และแพลตฟอร์มชำระเงินให้เร่งตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี และระงับช่องทางดังกล่าว

“ไมก์ โนโวแกรทซ์” ซีอีโอ “แกแล็กซี ดิจิทัล” บริษัทลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล กล่าวว่า มูลค่าบิตคอยน์อาจลงต่ำกว่านี้ และแนวรับต่อไปอาจอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ และยังคงเชื่อมั่นในบิตคอยน์ เพียงแต่ไม่มีความสุขเท่าตอนมูลค่า 60,000 ดอลลาร์

มูลค่าตลาดคริปโทฯเคยดิ่งรุนแรงระดับนี้ เมื่อปี 2017 ที่มูลค่าร่วงลงถึง 80% ขณะที่เหล่ามืออาชีพก็ยังเตือนว่า ไม่กี่ปีต่อจากนี้ มูลค่าตลาดคริปโทฯจะยังคงผันผวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

“เคธี่ สต๊อกตัน” ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัย “แฟร์หลีด สแตรทิจีส์” กล่าวว่า สิ่งเดียวที่สามารถการันตีได้เกี่ยวกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี คือ ความผันผวนที่กำลังเกิดขึ้น และสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่สิ่งใหม่ สิ่งสำคัญ คือการที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับความผันผวนนี้ให้ได้

“แพนกาจ บาลานี” ซีอีโอ “เดลต้า เอ็กซ์เชนจ์” บริษัทตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ระบุว่า ระยะสั้นไม่น่ามีผลกระทบอะไร เพราะการซื้อ-ขายบิตคอยน์ของบริษัท อยู่ที่ช่วงมูลค่าระดับ 30,000-42,000 ดอลลาร์สหรัฐอยู่แล้ว รวมถึงภาพรวมของตลาดยังไม่มีแนวโน้ม “อ่อนแอ” ขณะที่กลุ่มหุ้นเทคโนโลยียังมูลค่าสูงอยู่

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงอย่างหนักนั้น “ชางเผิง เจา” ผู้ก่อตั้ง “ไบแนนซ์” แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ ว่า ช่วงเวลา 99% ของทั้งหมด เราอยู่ใน “ดิป” หรือช่วงที่มูลค่าคริปโทฯร่วงลงมา แต่ผู้คนยังบ่นว่าไม่มีโอกาสลงทุน หรือสายเกินไปที่จะลงทุนแล้ว เหมือนเป็นการพยายามบอกว่า “ถือโอกาสเข้าไปลงทุนในช่วงราคาต่ำ เดี๋ยวมูลค่าบิตคอยน์ก็ขึ้นมา”