Starbucks จ่อขึ้นราคาปีนี้ เหตุต้นทุนสูง-แรงงานขาด

Photo by LOIC VENANCE / AFP

ลูกค้าเตรียมจ่ายเพิ่ม สตาร์บัคส์แย้มขึ้นราคาเครื่องดื่ม หลังราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ซัพพลายเชนสะดุด รวมถึงขาดแคลนแรงงาน

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 รอยเตอร์lรายงานว่า Starbucks Corp. เปิดเผยว่า เตรียมจะปรับขึ้นราคาเมนูในปีนี้ เพื่อชดเชยปัจจัยการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้น จากการที่ต้นทุนวัตถุดิบต่าง ๆ ราคาพุ่งสูงขึ้น ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อ การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงการขาดแคลนแรงงาน ที่ล้วนเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจที่บริษัทต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร

รายงานระบุว่า ด้วยปัจจัยเหตุข้างต้น ทำให้สตาร์บัคส์ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรประจำปีและประจำไตรมาสแรกของปีนี้ลง เนื่องจากปัจจัยไวรัสโอมิครอนที่ยังคงกระบาดอยู่ในสหรัฐ ทำให้การกลับมาทำงานภายในสำนักงานต้องเลื่อนออกไป ขณะที่จีนซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งและเติบโตเร็วที่สุด ยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มงวดของการคุมโควิด

Photo by LOIC VENANCE / AFP

สตาร์บัคส์รายงานผลกำไรที่ 72 เซนต์ต่อหุ้น น้อยกว่าคาดการณ์ของนักเคราะห์วอลล์สตรีทซึ่งคาดไว้ที่ 80 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่บริษัทยังได้ปรับปรุงคาดการณ์เติบโตของผลกำไรต่อหุ้นสำหรับปี 2022 เป็น 8-10% จากเดิมที่คาดว่าไม่น้อยกว่า 10% ก่อนหน้านี้

เควิน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า “เมื่อโอมิครอนเริ่มระบาด ต้นทุนเงินเฟ้อและการขาดแคลนพนักงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งเป็นจำนวนที่บริษัทเกินความคาดหมาย เป็นเหตุให้บริษัทตัดสินใจขึ้นราคาเมนูอีกครั้งนี้ปีนี้”

อย่างไรก็ตาม สตาร์บัคส์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะขึ้นราคาในเมนูชนิดใดบ้างและขึ้นในจำนวนเท่าใด ขณะที่ยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% ในไตรมาสแรกสิ้นสุดวันที่ 2 มกราคม ใกล้เคียงกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์จาก Refinitiv IBES คาดการณ์ไว้ว่าสตาร์บัคส์จะเติบโต 13.2% อย่างไรก็ตามหากแบ่งเป็นรายภูมิภาค พบว่ายอดขายของสาขาในจีนลดลงถึง 14% สวนทางกับยอดขายในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นถึง 18% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งได้อานิสงส์จากการเปิดตัวเครื่องดื่มเย็นเมนูใหม่ และการเพิ่มขึ้นของผลประโยชน์สมาชิก