“ทวิตเตอร์” ประกาศห้ามผู้ใช้งานหนุนกลุ่มก่อการร้าย-ขอให้เลื่อนผ่านข้อความเข้าข่าย

ทวิตเตอร์โซเชียลมีเดียชื่อดังประกาศเริ่มบังคับใช้กฎใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ห้ามผู้ใช้งานสนับสนุนความรุนแรงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง โดยประกาศให้ผู้ใช้งานเลื่อนผ่านข้อความที่เข้าข่ายสนับสนุนความรุนเเรง

ทวิตเตอร์กล่าวว่า นโยบายดังกล่าว จะต่อต้านพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ห้ามไม่ให้ส่งเสริมความรุนเเรง การข่มขู่ หรือโจมตีผู้อื่น โดยทวิตเตอร์จะระงับบัญชีผู้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่มีความรุนเเรง หรือสนับสนุนความรุนเเรง

การตัดสินใจบังคับใช้กฎใหม่เริ่มจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐอเมริกาหลังจากเกิดเหตุจราจลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในเมือง Charlottesville รัฐ Va. เเละมีการเผยเเพร่ข้อความทางทวิตเตอร์อย่างมากมายส่งผลให้บริษัทเล็งเห็นว่า ทวิตเตอร์ถูกใช้เป็นสื่อในการเผยเเพร่ข้อมูลเชิงสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย

อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนสิงหาคมในปี 2015 เเละ 30 มิถุนายนของปีนี้ มีการระงับบัญชีการใช้งานไปเเล้ว 935,897 บัญชี ที่เข้าข่ายสนับสนุนการก่อการร้าย

การติดตามตรวจสอบสอดคล้องว่านี่เป็นเหตุผลทำให้ทวิตเตอร์ระงับการใช้บัญชีเหล่านี้ ตามรายงานในช่วงครึ่งปีเเรกมีบัญชีผู้ใช้งานจำนวน 299,649 บัญชี ถูกลบออกจากทวิตเตอร์ ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ามีจำนวนลดลงจากช่วง 6 เดือนก่อนหน้า ซึ่ง 3 ใน 4 ของบัญชี ถูกระงับก่อนที่ทางทวิตเตอร์จะเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับทวีตของกลุ่มหัวรุนเเรง

โดยทวิตเตอร์เผยว่า บัญชีผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่การก่อการร้าย ถือเป็นหลักสำคัญที่ทำให้บัญชีเหล่านั้นถูกระงับการใช้งาน