หลังจากเลื่อนนัดเมื่อเดือนมีนาคม นายโจ ไบเดน ได้ฤกษ์ใหม่แล้วสำหรับการประชุมกับ ผู้นำชาติอาเซียน ในเดือนพฤษภาคมนี้ ต้องจัดให้ได้เพราะเป็น top priority
วันที่ 17 เมษายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดกับผู้นำชาติสมาชิกอาเซียน ที่กรุงวอชิงตัน วันที่ 12-13 พ.ค. นี้
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
ทำเนียบขาวแถลงหมายนัดดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 16 เม.ย. หลังจากนัดครั้งก่อนวันที่ 28-29 มี.ค. ทางฝ่ายอาเซียนขอเลื่อน เนื่องจากมีสมาชิกอาเซียนบางประเทศไม่สะดวกในวันเวลาดังกล่าว
ซัมมิตที่จะเกิดขึ้นเป็นวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์สหรัฐ-อาเซียน ต่อเนื่องจากการที่นายไบเดนเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและชาติพันธมิตร เมื่อเดือนตุลาคม 2564
ครั้งนั้นนายไบเดนประกาศมอบความช่วยเหลืออาเซียนมูลค่า 102 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.366 ล้านบาท ในการต่อสู้กับโควิด-19 และความมั่นคงทางสุขภาพ รวมถึงใช้สำหรับการรับมือกับภาวะโลกร้อน สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ
“นี่เป็นความสำคัญสูงสุดสำหรับรัฐบาลไบเดน-แฮร์ริส ในการเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็ง และเชื่อถือได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” น.ส.เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวและว่า
“ความปรารถนาที่แบ่งปันสำหรับภูมิภาคนี้จะปักหมุดต่อไปในคำมั่นของเราที่จะผลักดันอินโด-แปซิฟิกให้มีอิสระ เปิดกว้าง เชื่อมต่อ และยืดหยุ่น”
นายไบเดนเพิ่งพบกับ นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เมื่อเดือนก่อน เพื่อตอกย้ำว่าสิงคโปร์ และะชาติในฝั่งแปซิฟิกเป็นพันธมิตรอันดับต้นๆ ที่จะทำงานร่วมกับยุโรป และพันธมิตรอื่น ในการต่อต้านรัสเซีย กรณียกทัพบุกยูเครน
ก่อนหน้านี้ สมาชิก 10 ประเทศของอาเซียน ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เห็นไม่ตรงกันในการแสดงท่าทีต่อสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา หลังเหตุการณ์รัฐประหารโค่นอำนาจนางออง ซาน ซู จี เมื่อปีก่อน
แม้ว่าอาเซียนจะบรรลุฉันทามติ 5 ข้อ เพื่อให้คณะรัฐประหารเมียนมาเปิดการเจรจาหาหนทางสันติกับฝ่ายต่อต้าน รวมถึงให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และยุติความรนุแรง แต่รัฐบาลทหารเมียนมากลับเลื่อนการทำตามฉันทามติ อ้างว่าต้องให้ประเทศสงบก่อน หลังปราบปรามผู้ประท้วง และเผชิญหน้ากับฝ่ายต่อต้าน ซึ่งผู้แทนสหประชาชาติระบุว่า ราวกับทำสงครามกลางเมือง
นอกจากนี้ รัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ให้ความร่วมมือกับอาเซียน หลังอาเซียนไม่ส่งเทียบเชิญ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ในการประชุมอาเซียน ซัมมิต ซึ่งเป็นการแหวกประเพณีที่ปกติอาเซียนจะไม่แทรกแซงกิจการภายในต่อกัน