รัสเซียบุกหนักยูเครน หลังนาโตซัดรัสเซียเป็นภัยคุกคาม

รัสเซียบุกหนักยูเครน หลังนาโตซัดรัสเซียเป็นภัยคุกคาม
Press service of the State Emergency Service of Ukraine/Handout via REUTERS

ปูตินประกาศว่า รัสเซียจะตอบโต้ หากนาโตจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานในฟินแลนด์-สวีเดน

วันที่ 30 มิถุนายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียเดินหน้าโจมตีพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน หลังจากนาโตกล่าวหาว่ารัสเซียเป็น “ภัยคุกคามโดยตรง” ต่อความมั่นคงของชาติตะวันตก และมีมติเห็นชอบแผนพัฒนากองทัพของยูเครนให้ทันสมัย

ทางการยูเครนเผยว่า พวกเขาพยายามอพยพประชาชนออกจากเมืองลีซีแชนสก์ ซึ่งเป็นเมืองแนวหน้าทางตะวันออก ที่เป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีของรัสเซีย และมีประชาชนประมาณ 15,000 คนที่ยังถูกระดมยิงอย่างไม่หยุดยั้ง

“การสู้รบเกิดขึ้นตลอดเวลา รัสเซียรุกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการยอมแพ้” เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการเขตลูฮันสก์ในภูมิภาคดอนบาส ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ยูเครน พร้อมระบุว่า “ทุกอย่างกำลังถูกถล่มด้วยกระสุน”

ส่วนทางตอนใต้ของเขตเคอร์ซัน กองกำลังยูเครนกำลังสู้รบกับการโจมตีด้วยปืนใหญ่ ตามข้อมูลจาก “โอเล็กซี อาเรสโตวิช” ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ซึ่งกล่าวใผ่านคลิปวิดีโอที่โพสต์บนโลกออนไลน์

ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันพุธ ที่เน้นประเด็นการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น นาโตได้เชิญสวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิก พร้อมให้คำมั่นว่าจะเพิ่มจำนวนทหารกว่า 7 เท่า ภายในปี 2566 เพื่อเตรียมพร้อมกำลังรบในระดับสูง ตามแนวรบด้านตะวันออก

เพื่อตอบโต้เรื่องดังกล่าว “วลาดีมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะตอบสนองในลักษณะเดียวกัน หากนาโตก่อตั้งโครงสร้างพื้นฐานในฟินแลนด์และสวีเดน หลังจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทางทหาร ที่นำโดยสหรัฐฯ

สำนักข่าวรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของปูตินที่ระบุว่า เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความตึงเครียดจะเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย ฟินแลนด์ และสวีเดน หากทั้งสองประเทศเข้าร่วมนาโต

“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มกำลังทางบก ทะเล และอากาศ ทั่วทั้งยุโรป ตั้งแต่สเปนไปจนถึงโรมาเนีย และโปแลนด์ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน

ซึ่งรวมถึงกองบัญชาการถาวรที่มีกองพันในโปแลนด์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ วางกำลังทหารเต็มเวลาที่แนวรบด้านตะวันออกของนาโต

“สงครามของปูตินที่ทำในยูเครนได้ทำลายสันติภาพในยุโรป และสร้างวิกฤตความมั่นคงครั้งใหญ่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง” เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมระบุว่า “นาโตตอบโต้ด้วยความแข็งแกร่งและความสามัคคี”

ขณะที่ 30 ผู้นำประเทศนาโตกำลังประชุมกันในกรุงมาดริด กองกำลังรัสเซียได้ถล่มยูเครนอย่างหนัก ด้วยการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองมีโคเลฟ ใกล้กับพื้นที่แนวหน้าและทะเลดำ

นายกเทศมนตรีเมืองมีโคเลฟเผยว่า ขีปนาวุธรัสเซียทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายในอาคารที่พักอาศัย ขณะที่รัสเซียระบุว่ากองกำลังรัสเซียถล่มสิ่งที่เรียกว่าฐานฝึกทหารสำหรับทหารรับจ้างต่างชาติ

มีการสู้รบอย่างต่อเนื่องรอบเมืองลีซีแชนสก์ ซึ่งกองกำลังรัสเซียพยายามที่จะปิดล้อมเพื่อยึดครองพื้นที่ทางตะวันออกของภูมิภาคดอนบัส ที่ประกอบด้วยเขตโดเนตสก์และลูฮันสก์

“โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน กล่าวกับนาโตอีกครั้งว่า กองกำลังยูเครนต้องการอาวุธกับเงินมากขึ้น และรวดเร็วขึ้น เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยปืนใหญ่และขีปนาวุธจากรัสเซีย เขายังกล่าวอีกว่าความทะเยอทะยานของรัสเซียไม่ได้หยุดที่ยูเครน

ในขณะเดียวกัน ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (European Court of Human Rights) เผยว่าได้ออกคำสั่งไปยังรัสเซียเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการใช้โทษประหารชีวิตต่อชาวอังกฤษ 2 คนที่ถูกจับกุมหลังการสู้รบร่วมกับยูเครน

เมื่อช่วงต้นเดือน ศาลแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ได้พิพากษาประหารชีวิตพลเมืองชาวอังกฤษ โดยกล่าวหาว่าพวกเขาเป็นทหารรับจ้าง

ECHR กล่าวว่าได้ออกคำสั่งให้ใช้มาตรการชั่วคราวโดยบอกกับรัสเซียว่า ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการใช้โทษประหารชีวิตสำหรับผู้สมัครเป็นทหารรับจ้าง ใช้เงื่อนไขที่เหมาะสมในการกักขัง และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์และยาที่จำเป็นแก่พวกเขา