“บรูไน” ระงับกม.ประหาร “LGBT” หลังนานาชาติต้านหนัก

(REUTERS/David Gray)

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน ทรงมีพระราชดำรัสผ่านทางโทรทัศน์ระบุว่า บรูไนจะระงับการใช้กฎหมายศาสนาที่กำหนดโทษประหารชีวิตสำหรับกลุ่มผู้มีหลากหลายทางเพศ รวมถึงการกระทำผิดฐานคบชู้และการข่มขืน

กฎหมายดังกล่าวถูกประกาศบังคับใช้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ถูกต่อต้านอย่างหนักจากนานาชาติ โดยเฉพาะผู้มีชื่อเสียงอย่าง “จอร์จ คลูนีย์” นักแสดงชาวอเมริกันชื่อดัง และ “เอลตัน จอห์น” นักดนตรีชาวอังกฤษ เข้าร่วมแคมเปญต่อต้านกฎหมายดังกล่าว ด้วยการไม่เข้าใช้บริการโรงแรมหรูของบรูไน รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง เจพีมอร์แกน และธนาคารดอยช์แบงก์ ก็ร่วมรณรงค์ให้พนักงานหลีกเลี่ยงการใช้บริการโรงแรมที่ชาวบรูไนเป็นเจ้าของ อีกทั้งกลุ่มนักลงทุนบางส่วนก็ชะลอการลงทุนในบรูไนด้วยเช่นกัน

บรูไน เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกประเทศแรกที่ประกาศใช้กฎหมายศาสนาหรือ “กฎหมายชะรีอะฮ์” (Syariah Penal Code Order (SPCO)) มาตั้งแต่ปี 2014 แต่เริ่มบังคับใช้จริงเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ได้ทรงมีพระราชดำรัสว่า “เกิดความเข้าใจผิดอย่างมากเกี่ยวกับกฎหมายนี้ ซึ่งทำให้เกิดความหวาดวิตก” จึงทรงได้ประกาศระงับการบังคับใช้โทษประหารชีวิตทั้งในกฎหมายชะรีอะฮ์และประมวลกฎหมายอาญาใหม่ และทรงให้สัตยาบันต่อ “อนุสัญญาสหประชาชาติต่อต้านการทรมาน” อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ประเทศบรูไนไม่ได้บังคับใช้โทษประหารชีวิตโดยพฤตินัยมานานกว่า 20 ปีแล้ว แม้จะมียังมีกฎหมายที่กำหนดโทษประหารชีวิตอยู่ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ทรงระบุเพิ่มเติมว่า “ทั้งกฎหมายทั่วไปและกฎหมายชะรีอะฮ์มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสันติภาพและความสามัคคีให้กับชาติ กฎหมายทั้งสองยังมีความสำคัญในการปกป้องศีลธรรมอันดีและความเหมาะสมของประชาชน ขณะเดียวกันก็เคารพสิทธิส่วนบุคคลด้วย”