เลือกตั้ง 2566 : เกาะติดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย เปิดคำขวัญทิ้งทวนก่อนเข้าคูหา 14 พ.ค.

Thai News Pix "ผมเป็นบุคคลที่ไม่มีภาระใด ๆ ไม่มีธุรกิจใด ๆ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง" พล.อ. ประวิตร

พรรคการเมืองต่าง ๆ ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชนก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.

วันที่ 12 พ.ค. 2566 พรรคการเมืองหลักพรรคแรกที่เริ่มการปราศรัยใหญ่ คือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เรียกร้องให้ผู้มีสิทธิลงคะแนน กา 2 ใบให้ พปชร. ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” และ “ก้าวข้ามความยากจน” พร้อมชู พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะ “นำได้ ตามเป็น เย็นพอ ฟังทุกฝ่าย”

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียวของ พปชร. ประกาศว่า นี่คือภารกิจสุดท้ายของชีวิตเขา ที่ปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มาโดยตลอด

*หมายเหตุ: บีบีซีไทยอัพเดทบรรยากาศและใจความสำคัญของเวทีทุกพรรคอย่างต่อเนื่อง เรียงตามลำดับเวลาการขึ้นปราศรัยใหญ่

**บีบีซีไทยยังได้รวบรวม “คำประกาศนโยบายทิ้งทวน” และ “คำมั่นสัญญาสุดท้าย” ของพรรคการเมืองหลักมาไว้ ณ ที่นี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจของประชาชน ก่อนถึงวันกำหนดอนาคตประเทศไทย

BBC

BBC

พลังประชารัฐ : ก้าวข้ามความขัดแย้ง

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคการเมืองหลักพรรคแรกที่จัดปราศรัยใหญ่ เวลาราว 13.00-16.00 น. ปักหลักที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ภายใต้คำขวัญส่งท้าย : “ก้าวความขัดแย้ง ก้าวแรกคือรับฟังความคิดเห็น”

ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง 500 คน มารวมตัวเพื่อชูหลักการ “ก้าวความขัดแย้ง” ในฐานะคำตอบของ “การเมืองไทยในยุคนี้”

นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ อธิบายว่า แม้จะเน้นการก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็พร้อมขัดแย้ง หากบั่นทอน-ดูหมิ่น 3 สถาบัน

“มีเส้นบางอย่างที่ก้าวข้ามไม่ได้ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พรรคการเมืองใดก็ตามถ้าไม่เอา 3 สถาบันนี้ หรือทำให้สั่นคลอน ดูหมิ่นเหยียดหยามสถาบันเหล่านี้ ถ้าจะขัดแย้งก็ต้องขัดแย้ง” นายสกลธี ประกาศ

.

Thai News Pix
“ก้าวความขัดแย้ง ก้าวแรกคือรับฟังความคิดเห็น” คำขวัญทิ้งทวนของ พปชร.

“ถ้ากาผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐทุกเขตเลือกตั้ง ผมยืนยันกับท่านว่าจะได้ผู้นำและพรรคการเมือง ที่พร้อมจะก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวข้ามความขัดแย้งอย่างแท้จริง” นายสกลธี ประกาศ หลังชู “ลุงป้อม” หรือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งได้ เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ต่อมา พล.อ. ประวิตร เดินขึ้นสู่เวทีปราศรัย และยืนปราศรัยบนเวทีเพียงผู้เดียว ด้วยน้ำเสียงดัง ชัด และคล่องแคล่ว “ภารกิจสุดท้ายในชีวิตผม คือ การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศไทย ทุกท่านช่วยไหม”

พล.อ. ประวิตร อธิบายต่อประชาชนผู้สนับสนุนว่า ทำไมต้องเป็นเขาที่จะขึ้นนำรัฐบาล เพราะ “คุยได้กับทุกคน รับฟังความเห็นต่างได้ทุกฝ่าย โดยไม่มีอคติ” แล้วยังไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ไม่มีธุรกิจ และไม่มีภาระใด ๆ

“ประเทศของเรายังมีปัญหาอีกมาก โดยเฉพาะปัญหาความยากจนและปากท้อง จนถึงการก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวล่วงสถาบัน” รองนายกฯ จาก พปชร. กล่าว “ผมและพลังประชารัฐมุ่งเอาชนะปัญหาเหล่านี้ให้ได้”

ชัยภูมิสุดท้ายที่แต่ละพรรคใช้ปราศรัยปิด

เย็นวันที่ 12 พ.ค. แต่ละพรรคได้เลือกพื้นที่เป็นชัยภูมิสุดท้ายในการสื่อสารกับประชาชน

พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดปราศรัยใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งจุดนี้เคยใช้เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคทั้ง 3 คนมาแล้ว เมื่อ 5 เม.ย.

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย “เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที”

พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดปราศรัยใหญ่ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 และสนามฟุตบอลข้างสระว่ายน้ำ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เคยใช้ปราศรัยปิดในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย “คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน”

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดปราศรัยที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจุดนี้พรรคเคยใช้เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคมาแล้ว เมื่อ 9 ม.ค.

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ออกมาช่วยกันรักษาบ้านเมือง รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ”

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จัดปราศรัยใหญ่ที่ลานโชว์ ดีซี เขตห้วยขวาง

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย : “หัวใจนี้ เพื่อรับใช้ประชาชน”

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่พรรคเคยใช้ปราศรัยปิดในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย “Save ประชาธิปัตย์ เพื่อ Save ประชาธิปไตยไม่โกง”

พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) จัดปราศรัยใหญ่ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถ.วิภาวดี

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย “มาร่วมกันสร้างประเทศแห่งโอกาส สู้ทุนผูกขาด เศรษฐกิจต้องเรา”

พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) จัดปราศรัยใหญ่ที่ลานพารากอน พาร์ก ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

ภายใต้คำขวัญส่งท้าย “ไม่เอาลุง ไม่เอาขัดแย้ง”

หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว