นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย 4 รายถูกรัฐบาลทหารเมียนมาประหารชีวิต ซึ่งเชื่อได้ว่านี่เป็นการใช้บทลงโทษประหารชีวิตครั้งแรกของเมียนมาในรอบหลายทศวรรษ
นายเพียว เซยาร์ ตอ อดีตสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) นายก่อ จิมมี นักเขียนและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง นายฮลา มโย อัง และนายอัง ตูรา ซอว ถูกกล่าวหาว่ากระทำการ “ก่อการร้าย”
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- นายกฯ โทรเบรก-ระงับใบลากฤษฎา เตรียมแบ่งงานคลังใหม่
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
คำตัดสินประหารชีวิต โดยรัฐบาลทหารเมียนมา ประกาศเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังเกิดการทำรัฐประหารเมื่อ ก.พ. 2021 เรียกเสียงประณามจากนานาชาติ
รัฐบาลเผด็จการทหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่นำโดยพรรคเอ็นแอลดี ของนางออง ซาน ซู จี เมื่อเดือนก.พ. ปีที่แล้ว ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ไปทั่วเมียนมาซึ่งต่อมาถูกสลายอย่างรวดเร็ว
“รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติแห่งเมียนมาร์” (National Unity Government: NUG) รัฐบาลเงาเมียนมา ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร ประณามการสังหารโดยกล่าวว่าพวกเขา “ตกใจและเสียใจอย่างยิ่ง”
รัฐบาลเงาดังกล่าวประกอบไปด้วยบุคคลที่สนับสนุนประชาธิปไตย ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และสมาชิกของพรรคเอ็นแอลดี พวกเขาเรียกร้องให้ประชาคมโลก “ลงโทษรัฐบาลทหารที่สังหารคนในประเทศอย่างเหี้ยมโหด”
Global News Light of Myanmar สื่อของทางการเมียนมารายงานว่าชายทั้ง 4 คน ถูกประหารชีวิตเนื่องจากพวกเขา “ออกคำสั่งให้ จัดเตรียมและสมรู้ร่วมคิดในการกระทำการก่อการร้ายที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม”
กระบอกเสียงของรัฐให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพวกเขาถูกตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย แต่ไม่ได้บอกว่าพวกเขาถูกประหารชีวิตเมื่อใดหรืออย่างไร
การประหารชีวิตในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1988 ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ การประหารชีวิตในอดีตของเมียนมากระทำโดยการแขวนคอ
สมาชิกในครอบครัวของชายทั้ง 4 รออยู่ที่เรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้ง เพื่อซักถามเจ้าหน้าที่ ตามรายงานของบีบีซีเมียนมา โดยน้องสาวของก่อ จิมมี บอกกับบีบีซีว่าพวกเขายังไม่ได้รับศพ
สำรักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นางธาซิน ยุ่น อัง ภรรยาของนายเพียว กล่าวว่าเธอไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการประหารชีวิตสามีของเธอ ในขณะนี้ ครอบครัวของนักเคลื่อนไหวที่ถูกประหารชีวิต ได้ส่งเอกสารเข้าไปเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการประหารชีวิต
ชายทั้ง 4 คนถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือน ม.ค. ภายหลังการพิจารณาคดีแบบปิดที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ยุติธรรมและไม่โปร่งใส นายเพียว เซยาร์ ตอ และนายจ่อ มิน ยู ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า “ก่อ จิมมี” ถูกยกคำร้องอุทธรณ์การลงโทษในเดือน มิ.ย.
ในปี 2021 กองทัพของประเทศเข้ายึดอำนาจ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จุดชนวนให้เกิดการประท้วงในวงกว้าง กระตุ้นให้กองทัพออกมาปราบปรามผู้ประท้วงที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย นักเคลื่อนไหว และนักข่าว
“ตกใจและเสียใจ”
ข่าวการสังหารดังกล่าวได้ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากกลุ่มต่อต้านและองค์กรสิทธิมนุษยชน
“ผมโกรธเคืองและเสียใจกับข่าวการประหารชีวิตผู้รักชาติเมียนมา และผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของรัฐบาลทหารในเมียนมา” ทอม แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติในเมียนมากล่าว “การกระทำที่เลวทรามเหล่านี้จะต้องเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับประชาคมนานาประเทศ”
รัฐบาลเงา คือ “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของเมียนมา” กล่าวว่าพวกเขา “ตกใจและเสียใจอย่างยิ่ง” จากการประหารดังกล่าว
ผู้ถูกกล่าวหาคือใคร
ก่อ จิมมี่ วัย 53 ปี เป็นนักต่อสู้ใน “กลุ่มนักศึกษารุ่น 88” (88 Generation Students Group) ซึ่งเป็นขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยของเมียนมาซึ่งเป็นที่รู้จักจากการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารของประเทศในการชุมนุมต่อต้านของกลุ่มนักศึกษาในปี 1988
เขากับภรรยา นิลาร์ เต็ง นักเคลื่อนไหวที่ต่อสู้เคียงคู่กับเขา ถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย
เมื่อพระสงฆ์นำการประท้วงต่อต้านระบอบการปกครองในปี 2007 ก่อ จิมมี่และภรรยาของเขาได้ระดมนักเคลื่อนไหวและผู้ประท้วงจากการประท้วงในปี 1988 เพื่อเข้าร่วม
เขาถูกคุมขังหลายครั้งในเรือนจำเนื่องจากการมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวในปี 2012
เขาถูกจับกุมเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว หลังจากถูกกล่าวหาว่า ซุกซ่อนอาวุธและกระสุนปืนที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่างกุ้ง และเป็น “ที่ปรึกษา” ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ
เพียว เซยาร์ ตอ อายุ 41 ปี เป็นอดีตสมาชิกพรรคเอ็นแอลดี และเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของ ออง ซาน ซู จี
ก่อ จิมมี่ อดีตศิลปินฮิปฮอป มักจะทำให้รัฐบาลทหารโกรธเคืองจากเนื้อเพลงต่อต้านทหาร เขาถูกจับกุมในเดือน พ.ย. เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในคดีต่อต้านการก่อการร้าย
ส่วนนักเคลื่อนไหวอีกสองคนคือ นายฮลา มโย อัง และนายอัง ตูรา ซอว ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาฆ่าสตรีคนหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แจ้งข่าวให้รัฐบาลทหาร
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกการตัดสินใจของกองทัพในการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทั้ง 4 ว่า “เป็นการละเมิดสิทธิในการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงของบุคคลอย่างโจ่งแจ้ง”
รัฐบาลทหารได้เพิ่มการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้เห็นต่าง และผู้ที่ถูกมองว่ามีความรู้สึกต่อต้านรัฐประหาร นับตั้งแต่ที่พวกเขายึดอำนาจเมื่อปีที่แล้ว
พวกเขาอ้างว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปที่พรรคการเมืองของ ซู จี ชนะการเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” นั้นเป็นผลมาจากการโกงการเลือกตั้ง แต่เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ออกมาปฏิเสธ โดยระบุว่าไม่มีหลักฐานใด ๆ ระบุว่ามีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น
นับตั้งแต่การทำรัฐประหาร ซู จี ถูกกักบริเวณในบ้านของเธอ และยัดเยียดด้วยข้อกล่าวหาต่าง ๆ ตั้งแต่การทุจริตไปจนถึงการละเมิดกฎหมายความลับทางการของประเทศ ซึ่งอาจทำให้เธอได้รับโทษจำคุกสูงสุด 150 ปี
สมาคมช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมือง (The Assistance Association for Political Prisoners: AAPP) ซึ่งเก็บรวบรวมสถิติจำนวนผู้เสียชีวิต ถูกจำคุก หรือควบคุมตัวโดยทหาร ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุม 14,847 คน นับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร และมีผู้เสียชีวิตจากกองกำลังทหารประมาณ 2,114 คน