ปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่เกาหลี “Seoullo 7017” พักผ่อนหย่อนใจบนทางเดินลอยฟ้ากลางกรุงโซล

โดย นุ่มนิ่มนำโชค

 

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่บล็อกใหม่ของเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ที่มีชื่อว่า “ปักหมุด All Around” ที่จะพาทุกคนไปท่องเที่ยว เยี่ยมชม ปักหมุดตามสถานที่ต่างๆ ทั่วไทยและต่างแดน (ถ้ามีโอกาส ^^)

ประเดิมตอนแรกด้วยเรื่องราวในต่างประเทศอย่าง “เกาหลีใต้” ดินแดนโอปป้าที่คนไทยนิยมไปเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ด้วยความที่เกาหลีอนุญาตให้คนไทยอยู่ในประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ 90 วัน รวมถึงตอนนี้สายการบินโลว์คอสต์ก็มีอยู่เพียบ ไหนจะโอปป้าจากบอยแบนด์และซีรีส์ที่มีแฟนคลับเป็นชาวไทยอยู่นับไม่ถ้วน จึงไม่แปลกใจที่คนไทยจะไปเที่ยวเกาหลีกันปีละหลายแสนคน

แต่พอพูดถึงเกาหลีในช่วงนี้ บางคนอาจจะ “ขยาด” เพราะด้วยเรื่องราวการติด ตม. หรือ ตม.เกาหลีสุดโหด ที่หลายๆ คนเอามาแชร์ แต่จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนไปพบเจอมา ก็ต้องขอบอกว่า “ผู้เขียนไม่เจอเหตุการณ์แบบนั้นเลยสักนิด” ตม.เกาหลีไม่ถาม-ไม่ขอเอกสารอะไรเพิ่มจากผู้เขียนเลย รวมถึงคนอื่นๆ ที่ลงเครื่องมาด้วยกัน ผู้เขียนก็เห็นว่าเขาสามารถผ่าน ตม.เข้าไปโดยง่ายเช่นกัน ซึ่งจากที่เคยคุยกับบริษัททัวร์ เขาบอกว่าส่วนใหญ่แล้วที่โดนกักจะเป็นพวกที่ลักลอบมาทำงานในเกาหลี ซึ่งตรงนี้ ตม.จะดูออก ส่วนใหญ่ 99% ไม่มีพลาด ดังนั้น หากเราบริสุทธิ์ใจจริง เอกสารพร้อม เตรียมข้อมูลมาดี ผู้เขียนเชื่อว่าไม่เจอ ตม.โหดแน่นอนค่ะ

อ่ะๆ พอหอมปากหอมคอกับเรื่อง ตม.เกาหลีกันแล้ว เข้าสู่ที่ที่เราจะไปปักหมุดกันดีกว่า กับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อนอย่าง “Seoullo 7017” อ่านแล้วอาจจะ..เอ๊ะ..ผู้เขียนพิมพ์ตัวเลขผิดหรือเปล่า ย้ำว่าไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ เพราะเป็น 7017 จริงๆ ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าที่มาที่ไปของชื่อนี้ให้ฟังกัน

“Seoullo 7017” หรือทางเดินลอยฟ้าที่ถือเป็นแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางกรุงโซล ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟโซล (Seoul station) นั่นเอง โดยเป็นการปรับปรุงทางยกระดับที่สร้างขึ้นในปี 1970 และใช้มาเรื่อยๆ จนตรวจสอบพบว่าทางยกระดับแห่งนี้เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ แต่แทนที่จะทุบทิ้งไปให้เปล่าประโยชน์ ผู้ว่าการกรุงโซลคนปัจจุบันจึงมาแนวคิดมาปรับเป็นทางเดินลอยฟ้า ให้ชาวเมืองได้มาพักผ่อนหย่อนใจกันดีกว่า ซึ่งเขาก็เริ่มปรับปรุงตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนมาพร้อมเปิดให้บริการในปี 2017 จึงนำเลขท้ายสองตัวของปีที่เป็นทางยกระดับ และปีที่ปรับปรุงเป็นทางเดินลอยฟ้า มาประกอบกับคำว่า Seoullo ที่แปลว่า ถนนโซล นั่นเอง

วิวจากบนทางเดินลอยฟ้า Seoullo 7017

วันที่ผู้เขียนเดินทางไปเป็นวันที่เปิดตัวทางเดินลอยฟ้าแห่งนี้เป็นครั้งแรก ในโอกาสที่บริษัท เจอร์นี่ แลนด์ จำกัด บริษัทเอเจนซี่ทัวร์ไทยที่ทำทัวร์ไปเกาหลีใต้ เดินทางไปทำเอ็มโอยูกับการท่องเที่ยวกรุงโซลในด้านการท่องเที่ยว ร่วมกับเอเจนซี่ทัวร์จากประเทศอื่นอีก 8 ประเทศ การท่องเที่ยวกรุงโซลจึงพาคณะเดินทางมาเยี่ยมชมแลนด์มาร์คใหม่แห่งนี้ พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมด้วย

อย่างที่รู้กันว่าเกาหลีใต้เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ชอบสร้างสวนสาธารณะ หรือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจให้ประชาชนได้ใช้ ซึ่งโซลโล 7017 เองก็ถือเป็นทางเดินที่เป็นสวนย่อมๆ เลยทีเดียว ภายใต้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาทตลอดความยาวของทางเดินกว่า 1.24 กิโลเมตร กว้างประมาณ 10.3 เมตร เกาหลีเขาประดับต้นไม้ไว้บนนี้กว่า 24,085 ต้น กว่า 6,645 ชนิด ซึ่งเป็นพืชที่พบในเกาหลีทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีส่วนของแหล่งรวบรวมพรรณพืช ร้านกาแฟ หอคอยชมวิว ส่วนที่ให้เด็กๆ มากระโดดเล่น มีจุดให้นั่งพักเป็นระยะ ซึ่งบางจุดจะมีร่มบังแดดที่สามารถบังแดดได้ทุกทิศทางด้วย

เดินเรื่อยๆ ชมพันธุ์ไม้ต่างๆ บนโซลโล 7017 กันแบบเพลินๆ ต้นไม้ที่มีเยอะเห็นทีจะเป็นต้นสนชนิดต่างๆ เพราะสนเป็นพืชที่เรียกได้ว่าเขียวตลอดปี ทำให้เป็นความเชื่อของชาวเกาหลีถึงความมั่นคง ยาวนาน

สำหรับบรรยากาศวันแรกของการเปิดตัวเป็นไปด้วยความคึกคักมากๆ มากจริงๆ แบบเดินเบียดกันเลยทีเดียว แต่ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นผู้สูงวัย เดินกันแข็งแรงเชียวแหละ แดดร้อนแค่ไหนคุณลุง-คุณป้าก็บ่ยั่น เตรียมหมวก-ร่มมาเรียบร้อย

เดินมาจนถึง “ประติมากรรมหอคอยรองเท้า” ที่นำรองเท้าใช้แล้วเป็นหมื่นๆ คู่มาทำเป็นหอคอย เพื่อใช้ระลึกถึงการเดินทางกว่าจะมาเป็น Seoullo 7017 ในวันนี้ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงถึงความเหมาะสม เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมีอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญอยู่ด้วย

นอกจากจะตั้งใจให้เป็นที่ชมวิวและพักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวแล้ว เกาหลียังมีแนวคิดที่จะให้ที่นี่มีบริการจัดงานอีเวนต์ หรืองานเลี้ยงต่างๆ อีกด้วย

…เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ ที่ใครไปเกาหลีไม่ควรพลาดที่จะไปปักหมุดแน่นอน

วิวยามค่ำคืน

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.
ที่ตั้ง : สถานี Seoul (รถไฟใต้ดินโซลสาย 1) ทางออก 2 เลี้ยวขวาไปประมาณ 130 เมตรจะอยู่ทางขวามือ
ข้อแนะนำ : หากมาในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและชาวงฤดูร้อนของเกาหลี ตอนกลางวันแดดจะแรงมาก แนะนำให้มาชมวิวในช่วงเย็นจะดีกว่า หรือช่วงกลางคืนไฟก็สวย