ประยุทธ์ ลงนาม ประกาศใช้ “กฎ ก.ตร.” จรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2566

ประกาศราชกิจจานุเบกษา-ราชกิจจาฯ ประกาศ

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2566 ระบุชัดพึงยึดถือคุณธรรม จริยธรรม และอุดมคติของตำรวจ เป็นแนวทางการประพฤติตน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพึงวางตนให้เหมาะสมและครองตนอย่างพอเพียงสมฐานานุรูป 

วันที่ 13 มิถุนายน 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ 2566 ลงนามโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ

สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.ตร. ฉบับนี้ ระบุว่า โดยที่ข้าราชการตำรวจมีหน้าที่และความรับผิดชอบสำคัญในการรักษาความปลอดภัย สำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา รักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของราชอาณาจักร รวมทั้งการให้บริการแก่ประชาชน

ดังนั้น เพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีความประพฤติดี สำนึกในหน้าที่ มีคุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล จึงจำเป็นต้องออกกฎ ก.ตร. นี้

สำหรับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2566 ให้ใช้บังคับเมื่อพันกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้ใช้กฎ ก.ตร.นี้เป็นกรอบแห่งการประพฤติปฏิบัติของข้าราชการตำรวจ หลัก ๆ มีดังนี้

1.ข้าราชการตำรวจพึงยึดถือคุณธรรม จริยธรรม และอุดมคติของตำรวจ เป็นแนวทางการประพฤติตนและปฏิบัติหน้าที่เพื่อบรรลุถึงปณิธานของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อุทิศตนให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ มีความภาคภูมิใจในวิชาชีพตำรวจ และกล้ายืนหยัดกระทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เพื่อเกียรติศักดิ์และศักดิ์ศรีของความเป็นตำรวจ

2.ข้าราชการตำรวจพึงหลีกเลี่ยงและละเว้นจากอบายมุขทั้งปวง หรือกระทำการอื่นใดที่อาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อตนเอง ครอบครัว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

3.ข้าราชการตำรวจพึงวางตนให้เหมาะสมและครองตนอย่างพอเพียงสมฐานานุรูป

4.ข้าราชการตำรวจพึงใฝ่หาความรู้ เพิ่มพูนความรู้ และทักษะในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ

5.ข้าราชการตำรวจต้องยึดถือและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอย่างเคร่งครัด และยืนหยัดเจตนารมณ์ในการรักษากฎหมายให้ถึงที่สุด

6.ข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ รวมทั้งไม่ใช้ตำเหน่ง อำนาจหรือหน้าที่ หรือยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่ง อำนาจหรือหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือใช้ไปในทางจูงใจ หรือมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ การให้ดุลพินิจ อันเป็นผลให้สูญเสียความยุติธรรม

7.ข้าราชการตำรวจต้องรักษาความลับของทางราชกร และความลับที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือจากประชาชนผู้มาติดต่อราชการ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อประโยซน์ในกระบวนการยุติธรรม หรือการตรวจสอบตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ กำหนด

8.ข้าราชการตำรวจต้องถนอมรักษาทรัพย์สินของทางราชการให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย และสามารถใช้การได้ตลอดเวลา โดยระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหายหรือสิ้นเปลืองเยี่ยงวิญญูชนจะพึงปฏิบัติต่อทรัพย์สินของตนเอง

9.ข้าราชการตำรวจต้องตระหนักว่าการใช้อาวุธ กำลัง หรือความรุนแรง เป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุด โดยอาจใช้อาวุธ กำลัง หรือความรุนแรงได้ต่อเมื่อมีความจำเป็นภายใต้กรอบของกฎหมายและระเบียบแบบแผน

10.ในการรวบรวมพยานหลักฐาน การสืบสวนสอบสวน การสอบปากคำ หรือการซักถามผู้กระทำความผิด ผู้ต้องหา ผู้ที่อยู่ในความควบคุมตามกฎหมาย ผู้เสียหาย ผู้รู้เห็นเหตุการณ์หรือบุคคลอื่น ข้าราชการตำรวจต้องแสดงความเป็นมืออาชีพ โดยใช้ความรู้ ความสามารถตามหลักวิชาการตำรวจ รวมทั้งใช้ปฏิภาณ ไหวพริบ และสติปัญญาอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอันธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และไม่ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐาน

11.ข้าราชการตำรวจต้องอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม เอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ และใช้กิริยาวาจาที่สุภาพอ่อนโยน เพื่อให้ประชาชนมีความเสื่อมใส เชื่อมั่น และศรัทธา เป็นต้น

ดูประกาศฉบับเต็มที่นี่

กฎ ก.ตร.

กฎ ก.ตร.