เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ของผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยามาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรสพ.ศ. 2561 ระบุว่า พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 ระบุถึง หมวด 5 การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน มาตรา 102 วรรคสอง และมาตรา 6 การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม มาตรา 126 วรรคสาม กำหนดให้คู่สมรสหมายรวมถึง ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสด้วย
โดยบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยามาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้าพนักงานของรัฐและมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นคู่สมรสตามกฏหมายดังกล่าว คือได้ทำพิธีมงคลสมรสหรือพิธีอื่นใดในทำนองเดียวกันกับเจ้าพนักงานของรัฐ โดยมีบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลภายนอกรับทราบว่าเป็นการอยู่กินเป็นสามีภริยาตามประเพณี, เจ้าพนักงานของรัฐแสดงให้ปรากฎว่ามีสถานะเป็นสามีภริยากันหรือมีพฤติการณ์เป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไปว่ามีสถานะดังกล่าว
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงบุคคลซึ่งจดทะเบียนสมรสกับเจ้าพนักงานของรัฐและต่อมาได้จดทะเบียนหย่าขาดจากกันตามกฏหมาย แต่ยังแสดงให้ปรากฏหรือมีพฤติการณ์ซึ่งเป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไปว่ามีสถานะเป็นสามีหรือภริยากัน
ประกาศดังกล่าวให้ประธานคณะกรรมการป.ป.ช. เป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้แต่หากกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฎิบัติตามประกาศนี้ให้คณะกรรมการป.ป.ช. มีอำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด โดยคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด ประกาศเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 ลงนามโดยพลตำรวจเอกวัชรพลประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.
ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวให้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเบกษาเป็นต้นไป
ที่มา มติชนออนไลน์