“ชูศักดิ์” ชี้เป็นโอกาส “ยิ่งลักษณ์” ใช้สิทธิสู้คดีข้าวตามรธน. ปัดประวิง-ยืดเวลา

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีทีมทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวอาจขัดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 โดยบางฝ่ายออกมาระบุว่าเป็นการกดดันการพิจารณาของศาลหรือหวังยืดเวลาว่า ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าคดีอาญานั้น เป็นคดีที่มีโทษทางอาญา อันถือว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพที่รุนแรงที่สุด หลักการสำคัญของกฎหมายในทางอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อน ว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด แสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำผิดมิได้ โดยเหตุนี้คดีอาญาจึงต้องเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยได้ต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ คดีบางประเภทแม้จำเลยรับสารภาพ ยังต้องสืบพยานให้แน่ใจว่าจำเลยกระทำผิดจริง ถ้ามีกรณีเป็นที่สงสัยก็ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ส่วนการต่อสู้คดีของจำเลย ก็มีได้ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงคือไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง รวมถึงปัญหาข้อกฎหมาย เช่น ปัญหาว่ามีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่

นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า กรณีของอดีตนายกฯ เข้าใจว่าเจอปัญหานี้มาแล้วหลายกรณี เช่น เมื่อรัฐธรรมนูญ 2550 ยกเลิกไปแล้ว และรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มิได้กำหนดเรื่องการถอดถอนไว้ สนช.จะมีอำนาจถอดถอนได้หรือ หรือพ้นจากตำแหน่งแล้วยังจะถอดถอนออกจากตำแหน่งได้อีกหรือ สำหรับกรณีข้อต่อสู้เรื่องกฎหมายที่มาปรับใช้กับคดีขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ก็ถือเป็นข้อต่อสู้ได้ประการหนึ่ง มีบัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับ ส่วนจะเข้าเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เพียงใดหรือไม่ ก็คงเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลจะพิจารณา ควรทำความเข้าใจว่าเป็นสิทธิและโอกาสของจำเลยในการต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่มากกว่า ไม่ควรมองไปในเชิงการตีรวน ประวิงเวลาหรือยื้อคดี การทำให้ทุกๆ ประเด็นมีคำตอบ ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัย น่าจะเป็นผลดีมากกว่า

 

ที่มา : มติชนออนไลน์