มาดามแป้ง อวดกำไรครึ่งปีแรกเมืองไทยประกันภัยโตเกือบ 200%

เมืองไทยประกันภัย อวดกำไรสุทธิครึ่งปีแรกโตเกือบ 200% อยู่ที่ 352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 193.07% รับแรงหนุนยอดขายประกันรถยนต์-ประกันสุขภาพพุ่ง พ่วงกำไรขายหน่วยลงทุนเพิ่ม เผยค่าใช้จ่ายสินไหมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.51% อยู่ที่ 2,176 ล้านบาทจากปีก่อน เร่งเครื่องบุกตลาดประกันภัยเฉพาะกลุ่ม

นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.63) บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 7,127 ล้านบาท เติบโต 16.44% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากเบี้ยประกันภัยจากการรับประกันต่อจำนวน 49.82 ล้านบาท โดยมีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้จำนวน 3,718 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.10% หรือจำนวน 310 ล้านบาท โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 193.07% หรือประมาณ 232.06 ล้านบาท

ทั้งนี้เบี้ยรับที่เพิ่มขึ้นกว่า 7.84% มาจากงานประกันรถยนต์และงานประกันสุขภาพ ที่มีเบี้ยรับจาก 3,386 ล้านบาท มาเป็น 3,652 ล้านบาท นอกจากนี้กำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้น 42.23 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเกิดจากกำไรจากการขายเงินลงทุนประเภทหุ้นทุน กองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และรายได้เงินปันผลรับที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนสุทธิอยู่ที่ 2,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.51% จากปีก่อน จากอัตราสินไหมของงานประกันภัยทั่วไปที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าจ้างและบำเหน็จจ่ายมีอัตรา 15.51% ของเบี้ยประกันภัยรับรวม ซึ่งเป็นอัตราลดลงกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยอื่นและค่าใช้จ่ายดำเนินการเพิ่มขึ้น 90.53 ล้านบาท มาจากรายจ่ายประเภทต่างๆ เกี่ยวกับการตลาดและส่งเสริมการขายเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมภายใต้ภาวะการแข่งขันทางตลาด นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายจากการปรับปรุงงานและเทคโนโลยีและทรัพย์สินถาวร

“ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจเล็ก คนตัวเล็กตัวน้อย โควิด-19 เป็นเหมือนสัญญาณ Wake up call ที่ส่งสัญญาณเตือนพวกเราในทุกๆ เรื่อง ชีวิตของผู้คนทุกวันนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โลกมีภัยที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่เสมอ ทั้งภัยจากธรรมชาติ และฝีมือของมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร นับจากนี้คนที่จะอยู่รอดได้ คือคนที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว คือคนที่สามารถมองวิกฤตให้เป็นโอกาส เพราะไม่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หรือสถานการณ์ทางสังคมจะเป็นอย่างไร เราทุกคนก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตต่อไป ต้องดำเนินธุรกิจที่มีอยู่ต่อไป ที่สำคัญต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท และต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยมิตรภาพและความจริงใจ ดูแลกันเหมือนดั่งเป็นคนครอบครัวเดียวกัน จึงจะพาให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปได้”

ในปีนี้บริษัทจะพัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านของการบริการ และความพร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ และรองรับทุกความต้องการ ของลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ตลอดจนคู่ค้าและพันธมิตร ได้ครบทุกด้าน และดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะจะเน้นทำตลาดประกันภัยแบบเฉพาะกลุ่ม และเน้นการพัฒนาประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล ที่สามารถเข้าถึงคนทุกช่วงวัยได้ง่ายขึ้น เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ในยุค New Normal ซึ่งปัจจุบัน มีความรอบคอบและระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ยังต้องการความคุ้มครองที่คุ้มค่า นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในการพัฒนาบริการให้มีความหลากหลาย ทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัทฯ ควบคู่ไปกับการให้บริการแบบออฟไลน์ เช่น ตัวแทนจำหน่าย, Call Center และอีก 22 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค