เทียบฟอร์ม 2 เอาท์เล็ตหรู “อัดโปร-เพิ่มแม็กเนต” ชิงลูกค้าชาวไทย

สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต

“พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” เมืองไทยระอุ 2 ยักษ์ค้าปลีก เปิดศึกชิงลูกค้าชาวไทยปลุกกำลังซื้อครึ่งปีหลัง “สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต” ฉลอง 1 ปี รับส่วนลดเครดิตเงินคืนสูงสุด 18,000 บาท ปักหมุดแบรนด์ดังเจาะลูกค้า ฟาก “เซ็นทรัลวิลเลจ” ชูกลยุทธ์ Intensive Omnichannel ขนสินค้าหรู 220 แบรนด์ชั้นนำอัดโปรแรงลด 90% มัดใจชาช็อป

วันที่ 24 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การระบาดของโควิด-19 ที่ลากยาวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคชิ้นสำคัญที่กระทบต่อภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นหลักให้ซบเซาตามไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ “พรีเมี่ยมเอาท์เล็ต” ที่ต้องสะดุดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยวางไว้เป็นเป้าหมายหลัก

ทำอย่างไรจึงจะสามารถฟื้นธุรกิจให้เติบโตได้ท่ามกลางปัจจัยลบ ล่าสุดจึงได้เห็น 2 ยักษ์ พรีเมี่ยมเอาท์เล็ตของเมืองไทย ทั้ง “สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต” และ “เซ็นทรัลวิลเลจ” ระดมโปรโมชั่น ปั้นแม็กเนตใหม่ ไม่แพ้ศูนย์การค้าย่านธุรกิจกลางเมือง เพื่อเจาะลูกค้าชาวไทย และต่างชาติที่อาศัยในเมืองไทยแทน อีกทั้งยังเป็นการปลุกกำลังซื้อในครึ่งปีหลัง

บรรยากาศภายในสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต

ดึงแบรนด์หรูเจาะคนไทย

เริ่มกันที่ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ภายใต้ความร่วมมือของ สยามพิวรรธน์ กับ ไซม่อน พรอพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จากสหรัฐอเมริกา ที่เปิดให้บริการครบ 1 ปีเต็มท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยเป็นเป้าหมายเดิมหายไป ส่งผลให้ต้องหันมาปรับทัพใหม่เน้นเจาะลูกค้าชาวไทยแทนระหว่างรอเปิดประเทศ

ซึ่งในครึ่งปีหลังได้เตรียมเปิดตัวแบรนด์ดังที่จะเปิดเพิ่มภายในศูนย์ ไม่ว่าจะเป็น ลองฌองป์ (Longchamp) ซึ่งจะเปิด Exclusive Outlet แห่งแรกที่ สยามพรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ในเดือนสิงหาคมนี้ และแบรนด์รองเท้า เอคโค่ (Ecco) หลังช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ทยอยเปิดร้านดังเข้ามาเสริมแกร่งภายในศูนย์ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น รีบอค (reebok), บราวน์ แอนด์ โค (Browne & Co.), ยู บาย อุงกาโร (U by Ungaro), ปิแอร์ การ์แดง (Pierre Cardin), อัลฟ่าคิด (Alphakid) เป็นต้น

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างสีสันไม่จำเจให้ลูกค้า ด้วยร้านรูปแบบ ป๊อป อัพ สโตร์ (pop-up store) ที่หมุนเวียนมาเปิด เช่น โพเมโล (Pomelo) เปิดร้าน ป๊อป อัพ สโตร์ โดยใช้พื้นที่กว่า 500 ตร.ม., ลัช (Lush) ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบรนด์ดังจากอังกฤษ ซึ่งเปิดให้บริการเป็นที่แรกที่สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ เป็นต้น ควบคู่กับพัฒนาแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งอินสตาแกรม, โซเชียลคอมเมิร์ซ และบริการ CHAT&SHOP บนไลน์ออฟฟิเชียล เพื่อช่วยร้านค้าต่าง ๆ เพิ่มยอดขายได้ 10-30%

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นแบรนด์ยอดฮิตของคนไทย ที่ต่างเคยไปต่อคิวซื้อในเอาท์เล็ตดังในต่างประเทศ ที่ทางค่ายบอกว่า นั่นคือขุมพลังด้านกำลังซื้อสำคัญที่จำเป็นจะต้องขับเคลื่อน

นอกจากนี้ยังฉลองครบรอบ 1 ปีจึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษกับแคมเปญ “FIRST ANNIVERSARY” เมื่อช็อปครบ 3,000 บาท รับ Gift Voucher จากร้านค้าที่ร่วมรายการ สูงสุด 500 บาท เครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 18,000 บาท ถึง 18 ก.ค. 64 นี้ รวมมอบสิทธิประโยชน์จากทั้งลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตชั้นนำ รวมทั้งโปรโมชั่นจากพาร์ตเนอร์ Rabbit Rewards บัตรเครดิต JCB เมื่อช็อปครบ 5,000 บาท รับบัตร Siam Gift Card มูลค่า 100 บาท และเมื่อช็อปครบ 15,000 บาท รับบัตร 1 Day Pass เพื่อใช้บริการที่ VIP Lounge เป็นต้น

เซ็นทรัล วิลเลจ

ชู Intensive Omnichannel ปลุกยอด

ขณะที่ “เซ็นทรัล วิลเลจ” ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเมืองไทย ก็เดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วยกลยุทธ์ Intensive Omnichannel ปรับตัวเร็ว รุกเร็ว พร้อมชูจุดแข็งด้วยสาขาของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่มีอยู่ทั่วประเทศ ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งใน-นอก Catchment ผ่านแคมเปญการตลาดต่อเนื่อง

เริ่มตั้งแต่แคมเปญลดครั้งใหญ่แห่งปี ‘Super Brand Grand Sale 2021’ ลดสูงสุด 90% กับแบรนด์ลักเซอรี่ชั้นนำระดับโลกกว่า 220 แบรนด์ ช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่มทราฟฟิกภายในศูนย์ พร้อมรับสิทธิต่าง ๆ มากมาย ช้อปชาร์จความสุข วันนี้-31 ก.ค. 2564 พร้อมผสาน Online Shopping Platform อย่างต่อเนื่องหลังสร้างยอดขายออนไลน์เติบโตกว่า 145% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ยอดขายดังกล่าว มาจากคนกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัดและอื่น ๆ 30% และยังเป็นรายแรกที่ทำ Live streaming และมีช่วงเวลา “Golden time” ที่สร้างปรากฏการณ์เฝ้ารอหน้าจอมาแล้ว

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีลักชูรี่เอาท์เล็ตที่เป็นมากกว่าเดสติเนชั่นการช็อปปิ้งแบรนด์เนม เพื่อเจาะ Lifestyle insight เข้าถึง เข้าใจลูกค้า ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านระดับกลางและไฮเอนด์ และโรงเรียนนานาชาติในเขตบางนา และประเวศ โดยกว่า 60% ของกลุ่มลูกค้าคือคนที่อยู่ในรัศมี 15 กม.

ไม่ว่าจะเป็นการที่มี Tops Market, การจับกระแสเทรนด์ไลฟ์สไตล์การเล่นกีฬาอย่าง Skate, Surf skate และ Roller Blade เปิดพื้นที่ของศูนย์ ให้เป็นจุด Hangout ของคนเล่นกีฬาและชอบออกกำลังกาย และ· กลุ่ม Luxurious Lifestyle อาทิ การเป็นจุด Meeting และปล่อยรถของกลุ่ม Super car โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกได้ประมาณ 20%

บรรยากาศภายในสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต
บรรยากาศภายในสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต
เซ็นทรัล วิลเลจ
เซ็นทรัล วิลเลจ