หนองคายเด้งรับเปิดหวูดรถไฟจีน-ลาว หวังอานิสงส์การค้า-ลงทุนพุ่ง

มนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์

หนองคายเด้งรับเปิดหวูดรถไฟจีน-ลาว หวังอานิสงส์การค้าและการลงทุนพุ่ง

วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองคายว่า ทางจังหวัดได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดหนองคาย จัดสัมมนาการเตรียมความพร้อมรับโอกาสจากการเปิดเดินรถไฟระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเปิดโอกาสและแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะความสามารถด้านการลงทุนและการค้าชายแดนระหว่างภาคเอกชน ให้พร้อมรับโอกาสจากการเปิดเดินรถไฟที่โรงแรมพันล้าน บูติค รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ด้านการลงทุนเข้าร่วม ในการบรรยาย และแลกเปลี่ยนความรู้ มีนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกล่าวเปิดงาน ผ่านระบบออนไลน์ด้วย

นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สัมมนาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่การก้าวเป็นชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI)

และในวันที่ 3 ธันวาคม 2564 จะมีการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ The China-Laos Railway ช่วงโบเต็น-นครเวียงจันทน์ ซึ่งจังหวัดหนองคายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบที่จะเกิดขึ้นกับจังหวัดหนองคายในอนาคต จึงได้จัดให้มีการสัมมนาการเตรียมความพร้อมรับโอกาสจากการเปิดการเดินรถไฟระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในครั้งนี้

โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเปิดโอกาสและแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะความสามารถ ด้านการลงทุนและการค้าชายแดนระหว่างภาครัฐและเอกชน ให้พร้อมรับโอกาสจากการเปิดการเดินรถไฟระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจชายแดน

ทางด้านนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่การก้าวเป็นชาติมหาอำนาจ อันดับ 1 ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI) ซึ่งเป็นหลักคิดในการสร้างเครื่องมือ ในการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางในรูปแบบของรถไฟฟ้าความเร็วสูง

และจะเป็นโอกาสกระจายทรัพยากรไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ก้าวแรกของการเชื่อมโยงระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน คือ โครงการรถไฟความเร็วคุนหมิง-โบเต็น-นครหลวงเวียงจันทน์ที่พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 3 ธันวาคม 2564

ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาควิชาการ จำเป็นจะต้องเล็งเห็นถึงความสำคัญ และร่วมกันเตรียมความพร้อมรองรับในประเด็นดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟจีน-ลาว จะส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้จะสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงที่ดี (Change for good) ให้กับจังหวัดหนองคาย

คือเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการยกระดับและพัฒนาบุคลากรหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และ SMEs ไทย ให้มีทักษะความรู้และความสามารถด้านการลงทุน และการค้าชายแดนให้พร้อมรับโอกาสจากการเปิดการเดินรถไฟระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมถึงเกิดการพัฒนาและสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ชายแดนที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับโครงการก่อสร้างโครงการรถไฟลาว-จีน

นอกจากนี้ ส่วนราชการและหน่วยงานภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จะสามารถนำองค์ความรู้ประสบการณ์และการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุน การค้าชายแดน และโลจิสติกส์ที่ได้จากการจัดสัมมนาในครั้งนี้ใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดหนองคายและใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ของหน่วยงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด พ.ศ. 2566-พ.ศ. 2570 ในการเป็น “เมืองน่าอยู่ มุ่งสู่เกษตรอินทรีย์ ท่องเที่ยววิถีลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงการค้าชายแดน”