ชินวัตร ในหม้อน้ำเดือด !

คอลัมน์ สามัญสำนึก
โดย อิศรินทร์ หนูเมือง 

วาระขึ้นโรง-ขึ้นศาล ของบ้าน ชินวัตรŽ ยังชุกต่อเนื่องตลอด 3 ปี

คดีความหลังรัฐประหาร 2 รอบ เริ่มรุกหนัก เข้าโค้งอันตรายใกล้วันพิพากษา

แค่คิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรŽ ก็ต้องหลั่งน้ำตาอาบหน้า เพราะภาพความจริงที่รออยู่ตรงหน้า คือ คำพิพากษาŽ คดีจำนำข้าว ที่ สำนวนŽ การไต่สวนดีกรีเข้ม

ถึงพร้อมทั้งองค์คณะตุลาการ-เจ้าของสำนวน และเดิมพันใหม่ มีทั้งว่าที่ประธานศาลอุทธรณ์-ธนฤกษ์ นิติเศรณี และว่าที่ประธานศาลฎีกา-ชีพ จุลมนต์

การไต่สวนนัดสุดท้าย ตามด้วยการแถลงปิดคดี ด้วยวาจาŽ เป็นยุทธวิธีทางการเมือง ตามรอย ทักษิณŽ ที่เคยกล่าวคำสำคัญก่อนปิดคดี ซุกหุ้นŽ วรรคทองไว้ว่า บกพร่องโดยสุจริตŽ

คาดหวังคีย์เวิร์ดการเมือง จะถูกมวลชนขยายผล

คิวคุยเครียดกับทนาย-สลับกับคิดอีเวนต์เดินสายพบฐานเสียง-ชาวนา จึงเต็มเหยียด

ยุทธศาสตร์การต่อสู้ทางการเมือง-ถูกคิดควบคู่ข้อต่อสู้แท็กติกช่องว่างทางกฎหมายและกฎใหม่ในรัฐธรรมนูญ

ทั้งการยื่นไต่สวนพยาน เพิ่มเติมŽ จนหยดสุดท้าย

ยื่นให้ศาลฎีกาขอส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า การพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแบบเก่า-อาจขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญใหม่ ?

ขับเคลื่อนคู่ขนานการ ”คัดง้างŽ” พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ”คดีอาญานักการเมืองŽ”

หวัง “อุทธรณ์Ž” ตามขั้นตอนกฎหมายใหม่-เผื่อรอดจาก ”กับดัก”Ž คดีเก่าที่ตามติดเอาผิดตลอดชีวิต

ไม่เพียงคดี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรŽ” นายกรัฐมนตรี คนที่ 28 แต่ “นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์”Ž พี่เขย ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 ก็ยังยากที่จะพ้นพงหนามแห่งคดี สลายการชุมนุมŽ เมื่อปี 2551 ซึ่งจะถึงวันพิพากษา 2 สิงหาคม 2560

ทั้งคดีนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 และคนที่ 26 ล้วนอยู่ในมือ ตุลาการว่าที่ ประธานศาลฎีกาŽ

ตั๋วเดินทางไปต่างประเทศของ สมชายŽ อาจกลายเป็น One way ticket

และแม้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 จะตัดสินใจ หนีคดีŽ หลังกราบแผ่นดินครั้งสุดท้าย 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 จากประเทศไทยไป 9 ปีเต็ม

แต่ก็ยังไม่พ้นดงหนามการเมือง และอาญาแผ่นดิน เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลทหาร ออกกฎหมายใหม่ เปิดทางให้คดีคนการเมืองสามารถไต่สวน-พิจารณาและตัดสิน ลับหลังจำเลยŽ และ ไม่มีวันขาดอายุความŽ

ส่งผลให้มหกรรมแฟ้มคดีประมุขบ้าน ”ชินวัตร”Ž ที่ถูกจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เพราะ ”จำเลย-ทักษิณ”Ž หลบหนี กลับเข้าสู่กระบวนการ ”ศาลตั้งต้นŽ” อีกครั้ง

ไม่นับรวมคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้ว 2 คดี คือ คดีที่ดินรัชดา โทษจำคุก 2 ปี และคดีร่ำรวยผิดปกติ ให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน 46,373 ล้านบาท

ยังมีอีก 4 คดี ที่ ”จำเลย-ทักษิณ”Ž ถูกออก ”หมายจับ”Ž

ซึ่ง 2 ใน 4 คดี เป็นการกระทำผิดกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกิจการแห่งตระกูล ”ชินวัตรŽ”

คดีแรก หมายจับถูกออกเมื่อ 6 กันยายน 2551 ”ทักษิณ”Ž เอื้อให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้รัฐบาลเมียนมา 4,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจากบริษัทในเครือชินคอร์ป มีพยานปากเอกระดับอดีต รมว.ต่างประเทศ ชื่อ ”ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย”Ž

คดีที่สอง ศาลออกหมายจับ 15 ตุลาคม 2551 ข้อหาทุจริต ”แปลงสัญญาสัมปทานŽ” เป็นการเก็บภาษีสรรพสามิต โดยมิชอบ ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท

คดีที่สาม ศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551 เป็น ”คดีหวยบนดิน”Ž เลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว

คดีที่สี่ ศาลออกหมายจับ 11 ตุลาคม 2555 กรณี อนุมัติให้ธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อ 8,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ทำให้เกิด NPL

ภาพประวัติศาสตร์ที่เกินกว่าคนใน ”ชินวัตร”Ž จะคาดคิด-อิสรภาพของ “ยิ่งลักษณ์”Ž มีเดิมพันแห่ง  “ตระกูล”Ž ที่ต้องแลก