ตามหาคุณค่าของชีวิต

คอลัมน์ : SD Talk
ผู้เขียน : ณัฐณรินทร์ อิสริยเมธา

เมื่อไม่นานมานี้ รุ่นน้องที่รู้จักกันตั้งแต่เมื่อครั้งผู้เขียนยังทำงานประจำเล่าให้ฟังว่าไปสัมภาษณ์งานมาที่หนึ่ง หลังจากนั้น น้องได้รับข้อเสนอให้ทำงานที่นั่น โดยเมื่อเทียบกับงานปัจจุบันแล้ว ได้ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น ฐานเงินเดือนขึ้นตามเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการ รวมถึงลักษณะงานมีความท้าทายมากกว่า

แต่เมื่อยื่นลาออก หัวหน้างานปัจจุบันไปปรึกษากับฝ่ายบุคคล และได้ทำข้อเสนอเพิ่มฐานเงินเดือน และผลประโยชน์อื่น ๆ มาให้ใหม่ เพื่อดึงไม่ให้น้องลาออก ซึ่งงานในปัจจุบันถือว่าดี ลงตัว หัวหน้างานดี เพื่อนร่วมงานดี แม้ว่าฐานเงินเดือนใหม่ที่เสนอให้จะไม่สูงเท่ากับที่ใหม่ที่ยื่นมาก็ตาม

น้องจึงเกิดความลังเลว่าเขาควรจะเลือกงานไหนดี จึงต้องการขอคำแนะนำจากผู้เขียนว่าควรจะตัดสินใจอย่างไร ?

ฟังเรื่องราวจบ ผู้เขียนบอกว่าอยากฟังความคิดเห็นของน้องก่อน น้องเล่าให้ฟังว่าเขาคิดอย่างไรกับแต่ละงาน ผู้เขียนถามต่อว่าเป้าหมายในชีวิตของเขาคืออะไร ?

น้องจึงเริ่มเล่าเป้าหมายในชีวิตให้ฟัง โดยมีทั้งธุรกิจของครอบครัวที่รู้ว่าวันหนึ่งต้องกลับไปดูแลต่อ ความตั้งใจที่อยากสร้างประสบการณ์ในสายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน และงานในฝันที่อยากทำ แต่ไม่เคยบอกใคร ฟังจบ ผู้เขียนบอกว่าคำแนะนำเดียวที่มีให้คือ ขอให้ถามตัวเองว่าต้องการมีชีวิตแบบไหน ? ต้องการทำอะไร ?

เพราะสิ่งนี้แหละจะบอกได้ว่าควรจะเลือกงานไหน หากคำตอบคือเงิน แน่นอนว่าต้องเลือกงานที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด แต่ถ้าเลือกอยากทำงานในฝัน จะต้องพิจารณาดูว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ณ ปัจจุบัน สามารถพาเราไปให้ถึงงานในฝันได้หรือไม่ หากได้ จงมุ่งมั่นต่อไป แต่หากไม่ได้ ต้องวางแผนใหม่ว่าควรจะเลือกเส้นทางไหนดี

ประโยคหนึ่งที่ได้ยินแล้วสะดุดหู และเป็นสิ่งที่ผู้เขียนมักได้ยินจากคนรอบตัวที่ต้องการเปลี่ยนงานเสมอว่า เบื่อคน เบื่อระบบในบริษัท สำหรับผู้เขียน สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่อาจมาดึงความสนใจเราให้เดินออกไปจากเส้นทางที่จะพาเราไปสู่เป้าหมาย

ดังนั้น เราต้องมองภาพรวมให้เป็น และรู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร เราอยู่ตรงนี้ เลือกทำงานนี้เพราะอะไร เพราะตราบใดที่เรายังทำงานอยู่ในระบบ ยังต้องทำงานกับคน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะวางใจของเราต่อเรื่องเหล่านี้อย่างไร

เราจากกันด้วยคำขอบคุณจากน้องที่บอกว่า..ผมน่าจะได้คุยกับพี่ตั้งแต่ปีใหม่ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่สายไป ขอบคุณมาก คำแนะนำของพี่ชัดเจน และมีค่ามาก ผมจะไปคิดอีกที เชื่อว่าจะได้คำตอบ

ผู้เขียนเองรู้สึกยินดีที่คำแนะนำของเราเป็นประโยชน์สำหรับเขา และรู้สึกขอบคุณที่น้องนึกถึงเราในวันที่เขาต้องการคำแนะนำจากใครสักคนเช่นเดียวกัน

“ความมุ่งมั่นของชีวิต ความมุ่งมั่นขององค์กร”

การค้นหาตัวเองว่าเป้าหมายคืออะไร ? ต้องการใช้ชีวิตแบบไหน ? เปรียบเหมือนองค์กรที่ต้องรู้ว่าจะเป็นองค์กรแบบไหน คงอยู่เพื่ออะไร ต้องการส่งมอบคุณค่าอะไรให้กับสังคม เมื่อองค์กรสามารถทราบถึงสิ่งเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน จะสามารถพิจารณา และวางแผนต่อได้ว่ากลยุทธ์ที่ต้องดำเนินคืออะไร แผนงานที่ต้องทำเป็นอย่างไร จะประเมินด้วยตัวชี้วัดอะไรเพื่อให้สามารถสะท้อนไปสู่ลักษณะขององค์กร หรือคุณค่าที่ตั้งไว้ได้ และไม่หลงทางไปกับเรื่องเล็กน้อยอื่น ๆ ที่ต้องเจอระหว่างการเดินทาง

จากรายงาน Putting Purpose to Work : A Study of Purpose in the Workplace ของ PwC เมื่อปี 2016 ระบุว่า ผู้นำขององค์กรธุรกิจเชื่อว่า ความมุ่งหมาย หรือ purpose คือปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ แต่น่าเสียดายว่า สิ่งนี้กลับไม่ค่อยถูกนำไปใช้เมื่อต้องมีการตัดสินใจ คล้ายกับที่หลาย ๆ คนตัดสินใจเปลี่ยนงานด้วยเหตุผลว่า เบื่อคน เบื่อระบบ แต่ลืมนึกถึงว่างานที่ทำอยู่ให้อะไรกับเรา และจะพาเราไปสู่การมีชีวิตในแบบที่เราต้องการได้อย่างไร

ในอดีต ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ลาออก และเปลี่ยนงานใหม่บ่อยมาก เพราะรู้สึกเบื่อกับงานที่ทำ แต่เมื่อพบความมุ่งหมายของชีวิต รู้ว่าต้องการใช้ชีวิตอย่างไร จึงเริ่มวางแผนทางเดินใหม่ สู่การใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการ

ทุกวันนี้ เราอยู่ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากตัวเราจะหลงไปกับกระแสรอบตัวที่เราพบเห็นต่าง ๆ ผู้เขียนอยากชวนให้ลองกลับมาทบทวนดูว่า เราต้องการใช้ชีวิตแบบไหน เป้าหมายสำหรับการมีชีวิตของเราคืออะไร แล้วทุกวันนี้ ทางที่เราเดินอยู่จะพาเราไปสู่จุดนั้นหรือไม่

หากเรายังไม่แน่ชัดในคำตอบว่าเราต้องการอะไร ผู้เขียนขอให้ท่านมีความสุขกับทุกวันในการใช้ชีวิต เพราะผู้เขียนเชื่อว่า แต่ละคนมีเวลาของตัวเอง วันนี้อาจยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้คำตอบ แต่เมื่อถึงเวลา เราจะทราบอย่างแน่นอนค่ะ