ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2020 มธ.ชนะเลิศตอบโจทย์ความงามอนาคต

ทุก ๆ ปี ลอรีอัล กรุ๊ป จะจัดการแข่งขัน “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม” เพื่อสนับสนุนโครงงาน และผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเข้าสู่ตลาด ด้วยการเปิดกว้างให้กับนักศึกษาทุกระดับชั้น โดยไม่จำกัดสาขามาร่วมแข่งขัน และปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันในโครงการมาแล้วกว่า 40,000 คน จาก 65 ประเทศทั่วโลก สำหรับบริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 17 โดยมีนักศึกษาจำนวนกว่า 792 คน จาก 10 มหาวิทยาลัย เข้าร่วมแข่งขันในโครงการนี้

“ธนยศ ครุฑระเบียบ” ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแข่งขัน ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม เป็นโครงการสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความท้าทาย และต้องการที่จะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการนำโซลูชั่นใหม่ ๆ มาตอบโจทย์ทางธุรกิจของแบรนด์สากลระดับโลก และสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค

ธนยศ ครุฑระเบียบ

“ตลอดการแข่งขันนักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะ เช่น entrepreneurship, innovative thinking และ team work ล้วนเป็นทักษะสำคัญในการทำงานจริง และเป็นสิ่งที่บริษัทมองหา เห็นได้ชัดว่านักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันมีศักยภาพสูง และสามารถเติบโตไปกับลอรีอัลได้ ตลอดระยะเวลา 17 ปี ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้เข้าแข่งขันกว่า 55 คน ได้เข้าทำงานในโครงการ Management Trainee(ผู้จัดการฝึกหัด) โดยตำแหน่งสูงสุดของอดีตผู้เข้าแข่งขัน ที่ทำงานกับลอรีอัล ประเทศไทย จนถึงทุกวันนี้ คือ Brand General Manager (ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์) ลอรีอัลจึงให้ความสำคัญกับการแข่งขัน และผู้เข้าแข่งขันเป็นอย่างมาก”

“แต่ปีนี้มีความแตกต่างจากหลายปีผ่านมา เพราะดั่งที่ทุกคนทราบ เราอยู่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โรคโควิด-19) เราจึงคำนึงถึงความปลอดภัย และสุขภาพของผู้มีส่วนร่วมทุกคน จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน ด้วยการจัดการแข่งขันรอบ Innovation Fair และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด โดยเราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมตัดสิน ประกอบไปด้วย คุณอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ และคุณคริส ไดรฟ์เวอร์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด และ รศ.ดร.ดวงดาว อาจองค์ นักวิจัยสตรี ผู้ได้รับทุนจากโครงการทุนวิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ (For Women in Science) และรองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาวัสดุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

โดยผลการตัดสินการแข่งขันโครงการ”ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2020″ ประเทศไทย คือ

1.รางวัลชนะเลิศ ทีม ALL in This toCAGR จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับรางวัลเงินสดจำนวน 100,000 บาท และเป็นตัวแทนประเทศไทย แข่งขันกับตัวแทนจาก 65 ประเทศทั่วโลกทางออนไลน์ ในเดือนมิถุนายน 2563

2.ทีม The T(h)ree Hugger จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชนะรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท

3.ทีม Tricologist จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชนะรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินสด 30,000 บาท

“ทีม ALL In This toCAGR จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำเสนอกลยุทธ์การตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนเซ็ปต์การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง คิวบ์ ตอบโจทย์ ‘build a plastic-less future in the beauty industry’ หรือสร้างสรรค์อุตสาหกรรมความงามเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งอนาคตให้กับแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค ด้วยการเน้นการคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถช่วยลด หรือทดแทนการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมความงาม”

สำหรับทีม ALL in This toCAGR จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ชนะเลิศ “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2020” ประเทศไทย ประกอบด้วย นางสาวธนาภรณ์ สุขจิตต์ นิตยกาล, นางสาวสุดามาศ เก่งรุ่งเรืองชัย และนางสาวปทิตตา ตันชูเกียรติ นักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ชั้นปีที่ 4 โดยพวกเธอเปิดเผยเบื้องหลังให้ฟังว่า ผลงานการ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง คิวบ์ เกิดขึ้นจากความสนใจในแบรนด์การ์นิเย่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามแบบสุขภาพดีจากธรรมชาติ และมีความตั้งใจที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“ทีมของเราคิดว่าควรต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูง ๆ ของแบรนด์ อย่างผลิตภัณฑ์การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ จึงคิดค้นนวัตกรรมในการบีบอัด การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ ให้อยู่ในรูปแบบก้อนลูกบาศก์ หรือคิวบ์ ที่สามารถละลายในน้ำได้ โดยยังคงไว้ซึ่งความสะอาดต่อสภาพผิว ซึ่งหากนวัตกรรมได้ถูกพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จริง จะสามารถลดน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ลดปริมาณการใช้น้ำในการผลิต และลดของเสียหรือขยะที่เกิดขึ้นจากบรรจุภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“นอกจากนั้น การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง คิวบ์ จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับการซื้อการ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ ขวดใหม่มาใช้ ส่วนแผนการตลาดของเรายังรวมถึงการพัฒนาเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แคมเปญส่งเสริมการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่อยากมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม”

“หลังจากที่ได้ทราบผลผู้ชนะ พวกเรารู้สึกตกใจ และดีใจมากที่ชนะการแข่งขันลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2020 การแข่งขันนี้ทำให้พวกเราได้ก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิม ๆ และใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด รู้จักพัฒนาและต่อยอดความคิดในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีส่วนช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับโลกนี้ได้จริง ๆ ต้องขอขอบคุณบริษัทลอรีอัล ที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้ใช้เวลาคิดใหม่ ทำใหม่ ว่าคนรุ่นใหม่อย่างเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกของเรา”

“ธนยศ” กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ นักศึกษาทีมชนะเลิศ ALL in This toCAGR จะเดินหน้าพัฒนาผลงานและทักษะของตัวเองให้ครอบคลุมรอบด้านมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พร้อมเข้าร่วมแข่งขันต่อระดับโลก ในเดือนมิถุนายน 2563 กับตัวแทนจากอีกกว่า 65 ประเทศทั่วโลก เพื่อชิงรางวัลประสบการณ์การทำงานที่ฝรั่งเศส ณ Station F ฮับสตาร์ตอัพใหญ่ที่สุดในโลก เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“ทั้งยังมีโอกาสในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ระดับโลกอย่าง One Young World Summit ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาสำคัญในด้านต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกนี้ต่อไปอย่างยั่งยืน”