กระทรวงแรงงานเฝ้าระวังแคมป์ก่อสร้าง ป้องกันโอมิครอนระบาด

คนงานก่อสร้าง -โควิด

กระทรวงแรงงานขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการโดยเฉพาะแคมป์ก่อสร้าง เฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและแนะนำแนวปฏิบัติ หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 7 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเทศกาลปีใหม่ กระทรวงแรงงานมอบหมายกรมการจัดหางาน (กกจ.) และกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแนะนำแนวปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานประกอบกิจการ โดยเฉพาะแคมป์ก่อสร้าง เพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ในกลุ่มแรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่เริ่มทวีความรุนแรงในหลายประเทศ
ทั่วโลก จึงกำชับกระทรวงแรงงานตรวจสอบ ดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว

รัฐบาลมีนโยบายดูแลแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เท่าเทียมเช่นเดียวกับคนไทย โดยมีการจัดสรรวัคซีนสร้างภมูิป้องกันโควิด-19 สำหรับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในกิจการที่อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ได้รับวัคซีนสำหรับผู้ประกันตนจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) แต่หากไม่อยู่ในกิจการดังกล่าว จะมีกระทรวงสาธารณสุขและมหาดไทยรับไปดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยระดมฉีดวัคซีนทั้งแก่คนไทยและคนต่างด้าว รวมทั้งนายจ้าง สถานประกอบการที่ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการ ซึ่งหลายแห่งให้ความร่วมมือพาลูกจ้างในความดูแลฉีดวัคซีนตามกำหนด ทำให้เบาใจได้ส่วนหนึ่งว่าหากเกิดการติดเชื้อ ยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงได้”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานได้สั่งให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดและสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ประสานนายจ้าง/สถานประกอบการในพื้นที่ของตนเอง เพื่อให้ทราบมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข DMHTT

รวมทั้งแนะนำให้แรงงานต่างด้าวปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อลดการแพร่ระบาด เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ทำงาน หมั่นล้างมือหรือทำความสะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์ เช็ดถูพื้นผิววัสดุอุปกรณ์ที่มีการใช้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจหาเชื้อ และใช้งานแอปพลิเคชั่นไทยชนะ

“สำหรับความกังวลเรื่องการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลังปีใหม่นั้น ในปีนี้เรายังไม่มีการเปิดให้แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อฉลองปีใหม่ในช่วงเทศกาล จึงลดความเสี่ยงการรับเชื้อจากภายนอกประเทศ หรือการติดเชื้อระหว่างเดินทางได้ส่วนหนึ่ง”

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเทศกาลวันปีใหม่หากพบลูกจ้างมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะติดเชื้อ จำเป็นต้องไปรับการตรวจรักษา
ให้นายจ้างอนุญาตให้ลูกจ้างใช้สิทธิลาป่วย หรือใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีตามกฎหมายหรือตามที่ตกลงกัน

ทั้งนี้ หากสถานประกอบกิจการ นายจ้าง และลูกจ้าง มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่และการปฏิบัติตามแนวทางนี้ ให้ติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือโทรศัพท์สวยด่วน 1546 หรือ 1506 กด 3