ศูนย์ FLEC โชว์ความสำเร็จ บูรณาการ 5 องค์กรแก้ปัญหาไอยูยู

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา การทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing หรือ IUU และเพื่อขจัดและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคการประมงไทย จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา (Fishermen Life Enhancement Center หรือ FLEC)

การโชว์ความสำเร็จการดำเนินงานในระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 2558-2563 จนมีส่วนขับเคลื่อนการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ เพื่อยุติปัญหาการใช้แรงงานทาสในเรือประมง รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานข้ามชาติและครอบครัวอย่างมั่นคง

ส่งผลให้ศูนย์ได้รับการยอมรับเป็นองค์กรต้นแบบพลังภาครัฐ องค์กรอิสระ และเอกชน แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ชูความสำเร็จมาจากการรวมพลังของ 5 หน่วยงานมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของแรงงานและครอบครัวเป็นสำคัญ

นาตยา เพชรรัตน์

“นาตยา เพชรรัตน์” ผู้จัดการศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา ในฐานะกรรมการศูนย์ FLEC กล่าวว่า การดำเนินงานศูนย์ FLEC ในระยะที่ 1 (2558-2563) บูรณาการความร่วมมือจาก 5 องค์กรประกอบด้วย องค์การสะพานปลา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน, สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย, ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา(บ้านสุขสันต์) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้คุณภาพชีวิตแรงงานประมง และสมาชิกในครอบครัวของแรงงานดีขึ้น

เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงความรู้ความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กร ทั้งยังช่วยเหลือแรงงานบนเรือประมงให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และทำงานในสถานที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงสามารถเข้าถึงสวัสดิการสังคม และสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งการรักษาพยาบาล และการศึกษาของบุตรหลาน รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน

นอกจากนี้ ศูนย์ยังสร้างเครือข่ายและอาสาสมัคร 6,500 คน ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงและนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์มาให้แรงงานข้ามชาติ เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์หรือการใช้แรงงานผิดกฎหมายทุกประเภท ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยการแก้ปัญหาและป้องกันการค้ามนุษย์ หรือการใช้แรงงานผิดกฎหมายบนเรือประมง ในจังหวัดสงขลาให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

“นาตยา” กล่าวต่อว่าการดำเนินงานของศูนย์ FLEC ในระยะที่ 1 ช่วยให้แรงงานและครอบครัวประมาณ 15,000 คน ใน จ.สงขลาเข้าถึงการช่วยเหลือเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการทำงานของศูนย์ครอบคลุมการเปิดศูนย์เพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ แก่แรงงาน ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาลเบื้องต้น, การให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ แก่แรงงานข้ามชาติในการดำรงชีวิตใน จ.สงขลา, การส่งเสริมดูแลสุขภาพแรงงานที่อยู่บนเรือประมงได้เข้าถึงยาขั้นพื้นฐานกว่า 5,000 รายบนเรือประมงกว่า 100 ลำ

นอกจากนี้ บุตรหลานแรงงานข้ามชาติ 263 คนยังมีโอกาสเรียนหนังสือ อ่านออกเขียนได้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าระบบการศึกษา จนถึงสามารถส่งเด็กเข้าเรียนของโรงเรียนรัฐบาลใน จ.สงขลา 22 คน จนได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากแรงงานประมง, ประมงเกี่ยวเนื่อง และครอบครัว รวมถึงนายจ้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความร่วมมือ และการเข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมของศูนย์อย่างสม่ำเสมอ

“นาตยา” กล่าวอีกว่า ศูนย์ FLEC ยังเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับการขจัดปัญหา IUU และการค้ามนุษย์ โดยมีองค์กรในระดับประเทศและระดับโลกเข้าเยี่ยมชมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานของศูนย์

ขณะเดียวกัน จากความสำเร็จในการดำเนินงานของศูนย์มีส่วนร่วมช่วยให้สหภาพยุโรปยกเลิกใบเหลืองกรณี IUU Fishing โดยซีพีเอฟร่วมนำเสนอประสบการณ์เรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชนในภาคธุรกิจผ่านสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ในเวทีการประชุมสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และส่งผลให้ซีพีเอฟได้รับการประเมินจาก Global Child Forum 2020 เป็นธุรกิจที่เคารพสิทธิเด็ก เป็นผลจากความร่วมมือดำเนินงานของศูนย์ FLEC อีกด้วย

ทั้งนี้ 5 องค์กรร่วมก่อตั้งศูนย์ FLEC เตรียมสานต่อการดำเนินงานศูนย์ FLEC ในระยะที่ 2 (ปี 2564-2568) ขยายภาคีเครือข่ายการดำเนินงานกับ 2 องค์กรชั้นนำอย่างบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีอีพีพี สะอาด จำกัด หรือ GEPP เพื่อสานต่อการขับเคลื่อนการต่อต้านการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงาน ทั้งเรื่องสุขภาพอนามัย, การสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา, การส่งเสริมการเข้าถึงอาหารเพื่อลดรายจ่าย และสร้างรายได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง