“บุรีรัมย์ มาราธอน 2024” จัดใหญ่ปีที่ 8 ฉลองมาตรฐาน Gold Label ระดับโลก

บุรีรัมย์ มาราธอน 2024

นักวิ่งปอดเหล็กเตรียมตัวให้พร้อม “บุรีรัมย์ มาราธอน 2024” จัดใหญ่ฉลองมาตรฐาน Gold Label ที่แรกที่เดียวในไทย เริ่มที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สู่เส้นชัยที่สนามฟุตบอลช้าง อารีนา วันที่ 27 มกราคม 2567

วันที่ 8 สิงหาคม 2566 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ จนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดบุรีรัมย์, นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, พลตำรวจเอก สันต์ ศรุตานนท์ นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยผู้สนับสนุนภาคเอกชน นายสุรพล อุทินทุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทศภาค จํากัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง

ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน พรีเซนเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง” ประจำปี 2567 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มกราคม 2567 ในรูปแบบไนท์รัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ มาราธอน จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 สำหรับปี 2567 ถือเป็นมาราธอนงานแรกและงานเดียวของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก “สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ” (World Athletics) ให้เป็นมาราธอนเหรียญทองของโลก หรือ “Gold Label”

ดร.ก้องศักดกล่าวว่า การที่บุรีรัมย์ มาราธอน ถูกรับรองให้เป็นงานวิ่งในระดับ Gold Label จาก สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ นับเป็นอีกก้าวความสําเร็จของอุตสาหกรรมกีฬาวิ่งของไทย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงศักยภาพด้านมาตรฐานการจัดการแข่งขันระดับโลกโดยคนไทย หรือการเป็นจุดหมายสําคัญที่นักวิ่งทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต

เป็นนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่แล้วที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและกีฬา หรือที่เรียกว่า Sport Tourism ซึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้สำเร็จคือการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันกีฬาให้เป็นระดับโลก

“ในวงการวิ่งเราได้ผลักดันร่วมกับกำลังหลักอย่างภาคเอกชนมาตลอด และวันนี้ฝันเป็นจริงแล้ว การกีฬาแห่งประเทศไทยต้องขอขอบคุณนักวิ่ง คณะทํางาน และที่สําคัญสุดคือพี่น้องกองเชียร์ชาวบุรีรัมย์ทุกคนที่ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาจนได้รับมาตรฐาน Gold Label ในระดับโลก

ความสำเร็จของ บุรีรัมย์ มาราธอน จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึง ‘Buriram Sport City Model’ ได้เป็นอย่างดี และสามารถเป็นกรณีศึกษาให้กับจังหวัดอื่น ๆ นำไปปรับใช้ได้

เนื่องจากเป็นเครื่องมือสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เชื่อมโยงการกีฬาและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน เน้นการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น ผสมผสานทั้งวัฒนธรรมประเพณี ประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับกีฬา

โดยคาดว่า บุรีรัมย์ มาราธอน 2024 คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 700-800 ล้านบาท” ดร.ก้องศักดกล่าว

 

จากจุดเริ่มต้นสู่เส้นชัย

นายเนวิน ชิดชอบ เล่าว่า นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ ของงานวิ่งระดับโลกฝีมือคนไทย ตั้งแต่การเดินทางจากจุดเริ่มต้นจนถึงการได้ Gold Label ไม่ใช่ เรื่องง่าย

วันแรกที่เราทำ คนบุรีรัมย์ยังไม่รู้เลยว่ามาราธอนมีกี่ประเภท เรารู้จักแค่คำว่าวิ่งมาราธอน วันแรกที่ประชุมกันมีการตั้งเป้าหมายว่าวันหนึ่งเราจะเป็น Gold Marathon เราจะหนึ่งใน Destination เหมือนกับ Major Marathon อย่าง ลอนดอน โตเกียว และบอสตัน เพื่อเป็นมาราธอนระดับโลกให้ได้

เราเป็นสนามน้องใหม่ที่สามารถผ่านมาตรฐานระดับเหรียญทองตั้งแต่ก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 และต้องหยุดชะงักไปถึง 3 ปี กับอุปสรรคมากมาย จนถึงปีที่ 8 ของการจัดการแข่งขัน

ในที่สุด บุรีรัมย์ มาราธอน ก็ก้าวสู่การเป็นมาราธอนมาราธอนเหรียญทองงานแรกและงาน เดียวของของประเทศไทยอย่างเป็นทางการและเป็น Gold มาราธอนแรกของโลกในรูปแบบไนต์รันอีกด้วย

“ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา วันนี้เราสามารถนำบุรีรัมย์ มาราธอนไปอยู่บนปฏิทินงานวิ่งระดับโลกได้แล้วนักวิ่งจากทั่วโลกจะรู้จักจังหวัดบุรีรัมย์และประเทศไทยมากขึ้น ก้าวต่อไปของ เราคือการทำให้ บุรีรัมย์ มาราธอนเป็นหนึ่งใน Destination ที่เทียบเท่ากับ Major Marathon จากทั่วโลกให้ได้” นายเนวินกล่าว

บุรีรัมย์ มาราธอน 2024

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมามีนักวิ่งเข้าร่วม บุรีรัมย์ มาราธอน มากกว่า 300,000 คน มีกองเชียร์เข้าร่วมเกิน 1 ล้านคน และสามารถสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงถึง 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในเมืองเล็ก ๆ ห่างจากรุงเทพฯ 400 กิโลเมตรไม่คิดว่าจะทำได้

แน่นอนว่าเราอยากไปให้ไกลกว่านี้ เราต่อสู้มา 7 ปีเพื่อ Gold Label เราจะรักษามันไว้ให้ดี จะทำให้สมบูรณ์กว่านี้ และขอเวลาอีก 3 ปีเพื่อยกระดับมาตรฐานสู่ Platinum เป็นมาราธอนแรกของอาเซียนให้ได้ นายเนวิน กล่าว

นายสุรพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทศภาค จำกัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง กล่าวว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เครื่องดื่มตราช้างยังคงยืนหยัดในฐานะ Title Sponsor และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้บุรีรัมย์มาราธอนซึ่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนขยับเป็นมาราธอนเหรียญทอง สร้างชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงการมาราธอนโลก

การจัดงาน Mega Event อย่างบุรีรัมย์มาราธอนในแต่ละครั้ง มีนักวิ่งเข้าร่วมจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน รวมทั้งกองเชียร์และมีผู้ติดตามอีกหลายหมื่นคน

การจับจ่ายใช้สอยในช่วงของการแข่งขันจึงสร้างรายได้หมุนเวียนให้คนในท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียงได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามปณิธานของบริษัท ที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับท้องถิ่นและชุมชนให้ได้มากที่สุด

บุรีรัมย์ มาราธอน 2024

 

เซาะกราวแคมป์ บริการนักท่องเที่ยว

นายไชยวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานว่า บุรีรัมย์ มาราธอน ปีนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ฉลองสู่ปีที่ 8 และการได้รับมาตรฐาน Gold Label

เนื่องจากตอนนี้มีนักวิ่งสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 30,000 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เบื้องหลัง อาสาสมัคร และกองเชียร์อีกหลายพันคน ทางคณะทำงานทุกคนจึงเตรียมการรองรับที่พร้อมสมบูรณ์ไว้ในทุกด้าน

ด้านที่พักได้จัดให้มี “เซราะกราวแคมป์” บริการไว้ให้บริเวณใกล้จุดปล่อยตัวที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมีให้ทั้งแบบเป็นพื้นที่เปล่าราคา 120 บาท ต้องนำเต็นท์และเครื่องนอนมาเอง และแบบมีเต็นท์ 1 หลัง นอนได้ 2 คน ราคา 270 บาท ต้องนำเครื่องนอนมาเอง รวมทั้งมีการจัดตั้งหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนที่พักเกินราคาด้วย

ทั้งนี้ สามารถติดต่อหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนที่พักเกินราคาได้ที่ นายปรัชญา สุวรรณทา จ่าจังหวัดบุรีรัมย์ โทร. 08-5661-9968

บุรีรัมย์ มาราธอน 2024

รายละเอียดการแข่งขัน

“บุรีรัมย์ มาราธอน” ประจําปี 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มกราคม 2567 พร้อมการจัดงานเอ็กซ์โปขนทัพสินค้ากีฬาและสุขภาพเอาใจนักวิ่งตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

สำหรับการวิ่ง แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่

ระยะมาราธอน 42.195 กม.
ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม.
ระยะมินิมาราธอน 10.0 กม.
ระยะฟันรัน 4.554 กม.

เส้นทางวิ่งจะออกสตาร์ตจากจุดปล่อยตัวที่สนามแข่งรถ “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” และมี จุด Finish เข้าเส้นชัยที่ “สนามฟุตบอลช้าง อารีนา”

นอกจากนี้ยังมีภาคความบันเทิงที่จัดเต็มตลอดเส้นทาง สัมผัสธรรมชาติ บรรยากาศยามค่ำ และแสงสีเสียงสุดอลังการ

โดยจะวิ่งผ่านอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ชมวิว อุโมงค์ไฟ บริเวณสันเขื่อน ผ่านจุดแลนด์มาร์กที่สวยงามต่าง ๆ ทั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ศาลหลักเมืองที่งดงามด้วยศิลปะขอมโบราณ

พร้อมพบกับทัพกองเชียร์จํานวนมากที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก โดยแบ่งเป็นสแตนด์ขนาดใหญ่จากหน่วยงานต่าง ๆ มากกว่า 100 สแตนด์ เช่น กองเชียร์ 4 ภาค จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศ โดยตลอดเส้นทางยังมีทัพกองเชียร์คอยให้กาลังใจในนักวิ่งทุกระยะ จนเข้าสู่เส้นชัย

เมื่อวิ่งเสร็จ บริเวณหลังเส้นชัยที่บุรีรัมย์ คาสเซิล นักวิ่ง จะได้พบกับ บุรีรัมย์ สตรีตฟู้ด รวมร้านค้า ของอร่อยขึ้นชื่อของชาวบุรีรัมย์ไว้มากมาย