หมาก ปริญ ดูแลทุกด้านในชีวิตอย่างดี “ทุกวันนี้แฮปปี้ ยังไม่มีอะไรที่ฝัน”

สัมภาษณ์พิเศษ

ในลิสต์พระเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงยุคนี้มีชื่อ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ พระเอกจากช่อง 3 แน่นอน เขาเข้าวงการมา 10 ปี เริ่มจากเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ช่อง 3 ผลักดันอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นพระเอกอันดับต้น ๆ ของช่อง และติดอันดับท็อป 10 นักแสดงค่าตัวแพงที่สุดมาหลายปีแล้ว

“ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” คุยกับ หมาก ปริญ เกี่ยวกับหลาย ๆ ด้าน ในชีวิตของเขาที่พระเอกหนุ่มคนนี้ดูแลใส่ใจอย่างดี เมื่อทุกด้านดี จึงประกอบกันเป็นชีวิตที่แฮปปี้สุด ๆ

ดูแลหน้าที่การงาน

เริ่มที่เรื่องหน้าที่การงาน การพัฒนาตัวเอง และการดูแลตัวเองให้ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่อย่างต่อเนื่อง หมากบอกว่า ทุกอย่างที่ได้รับมาจากความตั้งใจ “ผมว่ามันเป็นเรื่องความตั้งใจ ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรให้ดี ความตั้งใจมันจะขับเคลื่อนให้เราไปทางนั้นให้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ”
 
ในส่วนการพัฒนาตัวเองเขาบอกว่า ต้องอาศัยประสบการณ์ พอประสบการณ์มากขึ้น เห็นการทำงานมากขึ้น ก็กล้าเล่นมากขึ้น รวมถึงการดูหนังต่างประเทศแล้วเอาบางอย่างมาใช้ในการแสดงของตัวเอง
 
พระเอกหนุ่มบอกว่า การแสดงทุกเรื่องเป็นจุดเปลี่ยนพัฒนาการ แต่ที่ชอบที่สุดคือเรื่อง “คลื่นชีวิต” เพราะเป็นบทที่ยากมาก ทำการบ้านหนัก และใช้พลังเยอะมาก ถามว่า บทอะไรที่อยากเล่นในเรื่องต่อไป เขาตอบว่าอยากเล่นหนังบทคนโรคจิต
 
การรับงานหมากบอกว่า ไม่ได้กำหนดว่าปีละกี่เรื่อง แล้วแต่โอกาสเข้ามา ส่วนงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณาจะเลือกที่สบายใจ เลือกสินค้าที่ตัวเองใช้จริงและกล้าพูดว่ามันดี ส่วนที่ยังไม่เคยใช้จะเอามาลองก่อน อย่างล่าสุดรับงานพรีเซ็นเตอร์สบู่ยี่ห้อหนึ่ง (ที่มีเลข 7) ก็เอามาลองใช้ก่อน
 

ดูแลครอบครัว

ภาพที่เห็นหลัง ๆ มานี้ หมากเป็นแฟมิลี่แมนคนหนึ่ง แม้ว่างานชุกขนาดไหน เขาก็กลับบ้านที่จังหวัดลำปางอย่างสม่ำเสมอ
 
“มันมีจุดอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมหันมามองดูครอบครัวตัวเอง ว่าเมื่อก่อนเราไม่สนิทกับเขาเลย แล้วเราก็คิดได้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายมาก แค่การกลับไปหาเขา การพาเขาไปกินข้าว การไปเที่ยวกับเขา มันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ดีสำหรับเราด้วย ดีสำหรับเขาด้วย เราได้ทำหน้าที่ลูกชายคนหนึ่งอย่างเต็มที่ ก็พยายามชวนเขาไปเที่ยว หรือชวนมากินข้าวที่กรุงเทพฯบ้าง มาหากันเรื่อย ๆ ผมก็กลับไปเรื่อย ๆ”
 
ส่วนพี่สาวคนสวยอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน หมากบอกว่า สนิทกันระดับหนึ่ง แต่ไม่ค่อยเจอกัน เพราะพี่สาวเป็นแอร์โฮสเตต เวลาไม่ค่อยตรงกัน เมื่อไหร่ที่ว่างตรงกันก็ออกไปกินข้าวนอกบ้านด้วยกันเป็นปกติ
 

ดูแลบริหารเงิน

เป็นพระเอกค่าตัวสูง งานเยอะ เงินเยอะ หามาได้เท่าไหร่ก็ให้คุณพ่อเก็บหมด “เรื่องที่ปรึกษาคุณพ่อส่วนใหญ่เป็นเรื่องการใช้เงิน คุณพ่อเป็นคนเก็บเงินให้ พอได้มาผมให้พ่อหมดเลย เราก็ถามพ่อเป็นระยะ ๆ ว่าตอนนี้เหลือตังค์เท่าไหร่ เอาไปจ่ายนู่นนี่ ซื้อกองทุน ซื้ออะไรเท่าไหร่ คุณพ่อบริหารให้”

ดูแลแบ่งเวลา…ทำกิจกรรมที่ชอบ

การทำกิจกรรมความชอบส่วนตัวก็เป็นภาพหนึ่งที่ได้เห็นสม่ำเสมอ ทั้งออกกำลังกาย ถ่ายรูป เดินป่า แค่เอ่ยขึ้นว่า เห็นทำกิจกรรมเยอะ เขาก็บอกว่า “ชอบมาก ชอบเข้าป่า ชอบใช้ชีวิต ผมเป็นคนชอบขับรถ”
 
แล้วเขาก็เล่าต่อ “ผมชอบขับรถไกล ๆ ก็เลยลองขับไปเที่ยว ขับขึ้นเขากับเพื่อน ก็สนุกดี แล้วอยากทำอะไรที่ไม่เหมือนเดิม อยากลุย ออกกำลังกาย ก็เริ่มเดินป่า รู้สึกตื่นเต้น สารในร่างกายหลั่งออกมาแล้วมีความสุข แต่จริง ๆ แล้วตอนเด็กคุณพ่อชอบพาเข้าป่า ขึ้นเขาทุกวีกเอนด์เราก็เลยติด ชอบ”
 
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นที่ชอบ ทั้ง “ชอบเขียน ไปเที่ยวก็เขียนชอบถ่ายรูป ชอบขับรถ ชอบกิน” ดูแลสุขภาพร่างกาย
 
แม้จะบอกว่า “ชอบกิน” แต่พระเอกคนนี้ไม่ห่วงเรื่องความอ้วน
 
“กินแล้วต้องเอาออกครับ บวกลบกันก็เท่าเดิม ถ้ามีเวลาก็ออกกำลังกายตลอดครับ ถ้ามีงานบ่ายก็จะตื่น 8-9 โมงไปฟิตเนส ไปวิ่ง ไปเวตบ้าง ถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็ไปยิมที่มีเทรนเนอร์ ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3-4 วัน”
 
ส่วนเรื่องผิวพรรณ หน้าตา ร่างกายภายนอกเขาบอกว่า ด้วยอาชีพก็จำเป็นต้องดูแลผิวพรรณ แต่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ง่าย ๆ ไม่หลายขั้นตอน
 

ดูแลความรักและหวานใจ

ประเด็นนี้ แฟน ๆ กรี๊ดได้เลย ความรักของหมากกับนางเอกสาวคิมเบอร์ลี (ที่มีละครเรื่อง “คมแฝก” คู่กันอยู่ตอนนี้) นั้นน่ารัก น่าอิจฉามาก แม้ก่อนหน้านี้มีข่าว สงสัยว่าเลิกกันหรือเปล่า แต่ฟังหมากพูดถึงความรักกับแฟนสาวซะก่อน…
 
“ดีครับ ดี ดี ดี ปกติ” หมากตอบพร้อมยิ้มเขิน เมื่อถูกถามว่า…แล้วเรื่องความรักเป็นยังไงบ้าง
 
“เราเริ่มจากการเป็นเพื่อนกัน และเราก็ยังคงมีนิสัยที่เหมือนเป็นเพื่อนกัน ก็โชคดีที่คิดอะไรไปในทางเดียวกัน มีอะไรก็ปรึกษากัน ก็มีลิ้นกับฟันบ้างก็ต้องคุยกัน ต้องปรับความเข้าใจ เราก็พยายามใจเย็นแล้วค่อย ๆ เคลียร์”
 
ถามว่า ใครใจเย็นกว่ากัน หมากบอกว่า สลับกัน ถ้าคนหนึ่งร้อน คนหนึ่งก็ต้องเย็น
 
“พยายามดูแลกัน อะไรที่เขาชอบ เราก็ทำให้ อะไรที่เขาไม่ชอบก็พยายามไม่ทำ” ตรงที่บอกว่าเหมือนเป็นเพื่อนกัน แต่ความเป็นเพื่อนก็ไม่ได้มีปัญหาต่อ
 
ความหวานของคู่นี้ “ไม่มีครับ เราให้ความสำคัญกับตรงนี้เหมือนกันนะ ผมว่ามันเป็นอะไรที่คนมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเขาต้องการ บางโอกาสก็ต้องให้ความสำคัญ ต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ ก็ไม่ได้หวานมาก แต่เราก็ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง เราเป็นเพื่อนที่มีทั้งกวนกัน มีทั้งกัดกัน มีทั้งความรู้สึกดี ๆ ให้กันผมว่าเราอยู่ได้”
 

ดูแลจัดการปัญหา

คนที่อยู่ในวงการบันเทิง มีชื่อเสียง มีคนจับจ้อง เวลามีปัญหาอะไรจะเป็นข่าวใหญ่ อาจจะจัดการยากกว่าคนธรรมดา หมากก็เหมือนกับคนอื่น มีทั้งเรื่องดีและร้าย ซึ่งเจ้าตัวพูดถึงประเด็นนี้ว่า
 
“ผมว่าคนเรามีทั้งด้านขาวและด้านดำ ก็อยู่ที่ว่าเราจะแสดงตัวตนให้คนอื่นเห็นยังไง ผมว่าสบาย ๆ ดีกว่า ทำสิ่งที่เราอยากทำ ที่มันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรือไปเบียดเบียนใคร ก็แค่นั้น เราว่าการเป็นตัวเองดีที่สุดแล้ว มันไม่อึดอัด และมันสบายใจ” ซึ่งการเป็นตัวเองก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกใจคนทั้งหมด “เราก็ไม่ต้องไปแคร์ เราแคร์คนที่เขาชอบผลงานเราดีกว่า” เขาว่า
 
เขาบอกอีกว่า จะไม่เก็บอะไรมาคิดให้ตัวเองเครียด ถ้าที่มีปัญหาก็รีบ ๆ แก้รีบ ๆ จบ “ไม่เก็บมาคิด ไม่ใช่ว่าละเลยหรือละทิ้งปัญหา แต่เราทำให้มันจบให้เร็วที่สุด เราจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
 

ดูแล-แลดูอนาคต

ถามถึงอนาคตในวงการบันเทิง พระเอกคนนี้หัวเราะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ “ผมเดาไม่ได้แต่ผมชอบวงการนี้ ผมสบาย ผมไม่ต้องแอ๊บ ผมเป็นตัวของตัวเองผมก็อยู่ได้”
 
ถามว่า อาชีพนี้ใช่ความฝันในวัยเด็กไหม “ไม่ใช่เลย” เขาตอบ แล้วอธิบายว่า “ตอนเด็กเราอยากเป็นทหาร เราชอบอะไรที่ลุย ๆ แต่สอบไม่ติด ตอนมาทำตรงนี้ตอนแรกมันคือการลอง แต่พอทำไปเรื่อย ๆ เราได้เจอคน ได้แสดงความสามารถให้หลายคนได้เห็น แล้วเขาชอบ ก็เลยรู้สึกแฮปปี้ที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวเรา”
 
และใช้ความเป็นคนดังทำอะไรเพื่อสังคมได้เยอะ ?
 
“ใช่ มันช่วยเยอะเลย ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนเขาก็ทำกัน เห็นเพื่อน ๆ ไปช่วยสังคมเยอะแยะ มันเป็นสิ่งที่ดี มันต้องช่วยกัน”
 
ชีวิตดูเพียบพร้อม แฮปปี้ทุกอย่างขนาดนี้ ถามว่า มีอะไรที่ไม่สบายใจ มีอะไรที่ต้องการ หรือมีความฝันอะไรไหม
 
“ตอนนี้ไม่มีครับ เราแฮปปี้มาก เราอยู่ในวัยที่อยากทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นเราจะไม่เก็บเรื่องเครียดมาคิด เราใช้ชีวิตให้สบาย ๆ ทุกวัน ทุกวันนี้ผมแฮปปี้มาก และพยายามแบ่งปัน ในเมื่อตัวเองมีความสุขแล้ว เราอยากแบ่งปันให้คนอื่น” 
 
ส่วนความฝัน เขานิ่งคิดอยู่นาน แล้วตอบว่า “ยังไม่มี ทุกอย่างตอนนี้มันโอเค และเราค่อย ๆ ก้าวไป ถ้าจะมีโอกาสดี ๆ เข้ามาที่เราสามารถทำได้เต็มที่ เราก็จะทำ”