ท็อป 5 FTA ดันยอดการค้าพุ่ง

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รายงานตัวเลขการค้าของไทยกับประเทศคู่ค้าที่มีความตกลงการค้าเสรี (FTA) พบว่า FTA 5 ฉบับจากทั้งหมด 12 ฉบับ ที่มีสถิติการค้าขยายตัวสูงสุด คือ 1) กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน (AFTA) มีมูลค่าการค้า ขยายตัว 707% นับตั้งแต่ความตกลงนี้มีผลใช้บังคับเมื่อปี 2536 สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกล เป็นต้น

รองลงมา คือ FTA ไทย-อินเดีย มีมูลค่าการค้าขยายตัว 406% นับตั้งแต่บังคับใช้ในปี 2547 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องจักรกล เป็นต้น ส่วนอันดับ 3 คือ อาเซียน-จีน (ACFTA) ขยายตัว 262% นับจากมีผลใช้บังคับใช้ปี 2548 สินค้าส่งออกที่สำคัญคือ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ และเคมีภัณฑ์

อันดับ 4 คือ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ มูลค่าการค้าขยายตัว 194.8% นับจากที่มีผลบังคับปี 2548 สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก และผลิตภัณฑ์ยาง และอันดับ 5 คือ FTA ไทย-ออสเตรเลีย มูลค่าการค้าขยายตัว 132% นับจากบังคับใช้เมื่อปี 2548 สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และอาหารทะเลกระป๋อง เป็นต้น

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เอฟทีเอไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันด้านการค้าและการลงทุนให้ผู้ประกอบการไทย แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลายมากขึ้นด้วย