พาณิชย์ ร่วมมือ กอ.รมน.ตำรวจทางหลวง จับผู้ลักลอบขนย้ายน้ำมันปาล์ม

กรมการค้าภายใน

กรมการค้าภายใน ร่วมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ชุมพร ตำรวจทางหลวง ตรวจเข้ม การขนย้ายและผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ที่สร้างความเป็นธรรมกับเกษตรกร ล่าสุดจับกุมผู้ลักลอบขนย้าย 2 ราย และ 1 รายไม่ปิดป้ายแสดงการรับซื้อผลปาล์ม

วันที่ 12 มกราคม 2566 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมเข้าตรวจเข้มการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันและการลักลอบขนย้ายน้ำมันปาล์ม

หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในการกดราคารับซื้ออย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรม และยกระดับรายได้ให้เกษตรกร

พร้อมกันนี้ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและเจ้าหน้าที่สำนักงานชั่งตวงวัด ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเข้มงวดในทุกพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกปาล์มที่สำคัญ

น้ำมันปาล์ม

เมื่อวันที่ 3-6 มกราคม 2566 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบโรงสกัดน้ำมันปาล์ม

เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรในราคาต่ำ พบผู้กระทำความผิด 1 ราย ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อปาล์ม ที่จุดรับซื้อ จึงได้ดำเนินการจับกุมและเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 3,000 บาท ส่วนด้านราคารับซื้อผลปาล์ม พบว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลปาล์มในราคาที่สูงกว่าป้ายราคารับซื้อที่แสดงไว้

และรับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาที่กรมการค้าภายในได้รับรายงาน ซึ่งราคาที่รับซื้อเป็นไปตามราคาโครงสร้างปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม

ต่อมาวันที่ 8 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชุมพร สนธิกำลัง กอ.รมน. จังหวัดชุมพร และตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบขนย้ายน้ำมันปาล์มโดยไม่ได้รับอนุญาตการขนย้าย จำนวน 2 ราย พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ขนย้ายและยานพาหนะ ทั้ง 2 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ และ สภ.เมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

น้ำมันปาล์ม

ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 25 พ.ศ. 2565 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายน้ำมันปาล์ม ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 มีความผิดตามมาตรา 25 (7) โทษตามมาตรา 37 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายอุดมกล่าวอีกว่า การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวทางในการป้องกันการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรและเรื่องนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดเข้มงวด ตรวจสอบลักลอบ ขนสินค้าเกษตรและให้เฝ้าระวังอย่างจริงจังและเข้มงวด

โดยหากตรวจพบการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ให้ดำเนินคดีโดยทันทีอย่างเคร่งครัด

และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบเกษตรกร หากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งขอให้แสดงราคารับซื้อและรับซื้อ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ มาตรการ เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และหากมีการขนย้ายสินค้าต้องได้รับอนุญาตก่อนทำการขนย้าย

น้ำมันปาล์ม

หากผ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ