
131 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธีม MOAC Digital Transformation มุ่งสู่บริการภาครัฐดิจิทัลเพื่อเกษตรกร
วันที่ 1 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานภาพบรรยากาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานวันสถาปนา ครบรอบ 131 ปี จัดพิธีสักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิธีเปิดงานวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้แนวคิด131 ปี MOAC Digital Transformation “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งสู่บริการภาครัฐดิจิทัลเพื่อเกษตรกร”
- เปิดภาพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดถนนวิภาวดีรังสิต
- บางกอกไพรด์ 2023 ชาว LGBTQ+ ฉลอง Pride Month พิธาประกาศนำ “สมรสเท่าเทียม” เข้าสภา
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
พร้อมจัดพิธีมอบต้นไม้ลดฝุ่นละอองภายใต้โครงการ Green City by MOAC ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดแสดงนิทรรศการแสดงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรของหน่วยงานในสังกัด
โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมเกียรติ กอไพศาล ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งานวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า การก้าวเข้าสู่ปีที่ 132 ยังคงมุ่งมั่นสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 เพื่อมุ่งสู่บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล ทั้งในส่วนของการพัฒนาระบบการปฏิบัติงานของหน่วยงานให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และประชาชน ด้วยการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยนำมาขยายผลให้ใช้ได้จริง คิดต่อยอด สร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ สำหรับภาคการเกษตรให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า สอดรับเป็นอย่างดีกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก
“ ภารกิจสำคัญของกระทรวง คือการทำให้ภาคการเกษตรไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทั้งภาคการผลิต การจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิต การส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรและระบบสหกรณ์ ผ่านการทำงานเชิงรุก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินงานภาคการเกษตรจะพัฒนาไม่หยุดนิ่ง โดยคำนึงถึงเกษตรกรเป็นหลักสำคัญ”
พร้อมกันนี้ ยังได้ผลักดันประเด็นอื่น ๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ การผลักดันการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรและบริหารจัดการคาร์บอนเครดิต การเร่งขับเคลื่อน BCG Model เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรไปสู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และรายได้สูง อันจะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้ภาคการเกษตร สามารถส่งต่อสู่รุ่นลูกหลาน

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ มีความก้าวหน้าและมีการพัฒนาด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเราจะเจอวิกฤตโควิด-19 เกือบ 3 ปี และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรทั้งหมด แต่เราก็สามารถแก้ไขปัญหาจนผ่านไปได้ด้วยดี และจากนี้จะขอให้เป็นปีที่ให้โอกาสกับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งกระทรวงจะเข้าไปดูแลผลผลิต ด้านคุณภาพและการหาตลาด ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ราคาและมีตลาดรองรับที่แน่นอน โดยมุ่งเน้นว่าสินค้าเกษตรต้องมีความปลอดภัย”
นอกจากนี้ จะต้องใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัย เข้ามาช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต การรักษาคุณภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เชื่อว่า 3 – 4 ปีข้างหน้า ภาคการการเกษตรของไทยจะต้องถูกยกระดับอย่างแน่นอน
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบต้นไม้ลดฝุ่นละอองภายใต้โครงการ Green City by MOAC ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจในสังกัด และผู้บริหารองค์การมหาชนในกำกับของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 22 หน่วยงาน เพื่อประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง
สำหรับต้นไม้ที่นำมาแจก ได้แก่ ไม้ตระกูลคล้า ไม้ตระกูลเฟิร์น และเศรษฐีเรือนใน รวมจำนวน 1,118 ต้น ซึ่งประชาชนสามารถลงทะเบียนรับต้นไม้ ณ บูธกิจกรรม

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรของหน่วยงานในสังกัด อาทิ แอปพลิเคชั่นการจัดการดินและปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ระบบตรวจติดตามการระบาดศัตรูพืช การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการเกษตรกร เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและความมุ่งมั่นทุ่มเทของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการด้านการเกษตร
รวมถึงส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และรวบรวมเป็นองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีการเกษตร
อีกทั้งยังสามารถให้เกษตรกรนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินการด้านส่งเสริมประสิทธิภาพ การผลิต การแปรรูป และการตลาด นำไปสู่การพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน