ธรรมนัสแจ้งข่าวดี ต้นปี 2567 เดินหน้าแจกโฉนดที่ดินให้เกษตรกร

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า

กระทรวงเกษตรฯ จัดลงนาม MOU 16 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมพัฒนาพื้นที่และเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) พร้อมส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกร และข่าวดีปี 2567 เดินหน้าแจกโฉนดที่ดินให้เกษตรกรทั่วประเทศ

วันที่ 25 กันยายน 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 16 หน่วยงาน ว่าการลงนามครั้งนี้เป็นการต่อยอดลงนามเพิ่มเติมอีก 7 หน่วยงาน จากเดิม 9 หน่วยงาน ทำให้ลงนามทั้งสิ้น 16 หน่วยงาน

วัตถุประสงค์นั้นก็เพื่อบูรณาการในวางแผนและสนับสนุนการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ ในพื้นที่ยึดคืนตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559 สั่ง ณ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 พื้นที่ตามนโยบายรัฐบาลที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพื้นที่อื่นในเขตปฏิรูปที่ดิน

รวมถึงเพื่อให้เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินมีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นได้อย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินสูงสุด ซึ่งทั้ง 16 หน่วยงานจะร่วมมือกันในการให้องค์ความรู้และสนับสนุนทางเทคนิควิชาการ ในการวางแผน ออกแบบ และก่อสร้าง เพื่อยกระดับงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเขตปฏิรูปที่ดินให้เกิดศักยภาพสูงสุด และเป็นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมสวัสดิการสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีรายได้ที่มั่นคง

Advertisment

“การเซ็น MOU ครั้งนี้ จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ เช่น การสำรวจออกแบบพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น บ่อน้ำบาดาล สระเก็บน้ำประจำแปลงเกษตรกรรม เป็นต้น ส่วนด้านดินจะร่วมกันปรับปรุง พัฒนาทรัพยากรดินให้เกิดความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมกับการเกษตร พร้อมทั้งอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรดินและน้ำให้เกิดความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

นอกจากนั้น ยังออกแบบวางผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน ออกแบบผังชุมชน ผังแปลงเกษตรกรรม ให้สอดคล้องกับผังเมืองรวมของจังหวัด จัดทำแผนขยายเขตไฟฟ้าเข้าพื้นที่ ทั้งยังให้ความรู้เจ้าหน้าที่และกลุ่มเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ ทำให้ชุมชนมีศักยภาพสามารถพัฒนาไปสู่การแข่งขันเชิงธุรกิจในอนาคต

และการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มพัฒนาอาชีพ ให้มีการต่อยอดการพัฒนาในมิติ 6 ด้าน คือ น้ำ ดิน เกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม และพลังงานทดแทน รวมไปถึงสนับสนุนกิจกรรมและโครงการที่เป็นประโยชน์กับชุมชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

Advertisment

แจกโฉนดที่ดิน

ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวอีกว่า ปัจจุบันนั้นเกษตรกรที่ได้รับอนุญาตทำกินในพื้นที่ ส.ป.ก. ประมาณกว่า 30 ล้านไร่ ซึ่งในรัฐบาลและกระทรวงในยุคนี้ เรามีความตั้งใจจะพัฒนาอาชีพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น เรามอบพื้นที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรให้ พร้อมจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแหล่งน้ำ ที่อยู่อาศัย ถนนหนทาง ไฟฟ้า ตลอดจนส่งเสริมอาชีพ ซึ่งเราจะบูรณาการจากทุกหน่วยงานของกรมเพื่อส่งเสริมให้ชีวิตเกษตรกรดีขึ้น

และนอกจากนี้ กระทรวงยังมีนโยบายจะเปลี่ยนพื้นที่ ส.ป.ก. ให้เปลี่ยนโฉนดที่ดิน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนในการขับเคลื่อน โดยคาดว่าปีหน้า 2567 จะสามารถเริ่มแจกโฉนดที่ดินให้กับเกษตรกรได้ทั่วประเทศซึ่งจะทยอยออกมา

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ โดย ส.ป.ก. มีภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือและดูแลพี่น้องเกษตรกรของประเทศไทย ซึ่งภารกิจงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ ส.ป.ก. ต้องตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ตามสภาพของสังคมนั้น งานพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร การก่อสร้างถนนเพื่อการสัญจร การสร้างบ้านอยู่อาศัย มีไฟฟ้าใช้ทั้งหมดเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานของการดำรงชีวิต ส.ป.ก. ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำให้สินค้าทางการเกษตรมีความสามารถในการแข่งขัน มีมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค สร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรอย่างแท้จริง ตามนโยบายของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมไปถึงรัฐบาล

สำรวจลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

พร้อมกันนี้ ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ เนื่องจากประชาชน หลายฝ่ายกังวลปัญหาเอลนีโญ เกิดความวิตกเรื่องน้ำท่วม ภัยแล้ง วันนี้ตน (25 กันยายน 2566) จะมีการลงสำรวจบริหารจัดการน้ำลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

อย่างไรก็ดี ภายหลังลงพื้นที่ ตนให้ความสำคัญพร้อมจะสั่งการกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามและหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงเกษตรฯ กรมชลประทาน จะต้องมีแผนรองรับให้กับเกษตรกร และต้องให้ความร่วมมือร่วมกันบริหารจัดการน้ำ

16 หน่วยงาน

สำหรับ 16 หน่วยงานที่ร่วมลงนาม ได้แก่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมพัฒนาที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ณ อาคารศาลาพระมิ่งขวัญ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร (ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

จัดสรรแล้ว 2.9 ล้านครัวเรือน

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า การดำเนินงานจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ได้รับการจัดสรร บริจาค พระราชทาน ซึ่งปัจจุบันจัดสรรให้กับเกษตรกรกว่า 2.9 ล้านครัวเรือน เพื่อให้เกษตรกรมีพื้นที่ทำกิน

และก่อนหน้านี้ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงกับ 9 หน่วยงาน เพื่อยกระดับและพัฒนาที่ดินซึ่งจะครบกำหนดในปลายปี 2566 นี้ แต่เพื่อการยกระดับและพัฒนาที่เพิ่มขึ้น จึงได้มีการลงนามเพิ่มเติมอีก 7 หน่วยงานรวมเป็น 16 หน่วยงานเพื่อพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรให้ดีขึ้นต่อไป